วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564

วัดคอกช้าง จุดชมวิวเมืองสุดสวยของท่าชนะ

วัดคอกช้าง หรือ วัดวิชิตดิตถาราม ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี

 อำเภอท่าชนะ เป็นอำเภอแรกของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นักท่องเที่ยวผู้เดินทางจากกรุงเทพจะได้เยือนหากขับรถไปด้วยถนนสายหลัก โดยมีพื้นที่ติดกับอำเภอละแมของจังหวัดชุมพร ท่าชนะเป็นอำเภอเล็กๆ มีชายหาดติดทะเลที่สวยงาม และเป็นจุดเชื่อมโยงการท่องเที่ยวใหม่สู่เกาะต่างๆ ด้วยมีท่าเรือเอนกประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวมีเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวของ บริษัท ร้อยเกาะแอดเวนเจอร์ จำกัด ที่จะพานักท่องเที่ยวไปชมความงดงามของหมู่เกาะอ่างทอง , เกาะสมุย , เกาะพะงัน และเกาะเต่า ด้วยเส้นทางเดินเรือใหม่ที่สะดวกและใช้เวลาในการเดินทางน้อยที่สุด

วัดวิชิตดิตถาราม หรือวัดคอกช้าง อำเภอท่าชนะ
วัดวิชิตดิตถาราม ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลท่าชนะ อยู่ห่างจากตลาดอำเภอท่าชนะเพียง 400 เมตรเท่านั้น มีประวัติยาวนานน่าจะตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ด้านหลังของวัดติดกับภูเขาใหญ่มีชื่อว่า เขาประสงค์ ซึ่งคนในพื้นที่เชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์มีเทวดาอารักษ์คุ้มครองปกปักรักษาอยู่ชื่อว่า แม่นางประสงค์ 

วัดวิชิตดิตถาราม คนในพื้นที่จะนิยมเรียกว่า วัดคอกช้าง ภายในวัดมีรูปปั้นช้างจำนวนหลายเชือกในอริยาบทกำลังเดินไปกินน้ำที่สระบัวกลางวัด จากชื่อวัดที่ชาวบ้านเรียกกันมาแต่ครั้งโบราณก็พอจะสันนิษฐานได้ว่าเมื่อก่อนพื้นที่บริเวณนี้คงมีคอกสำหรับจับช้างหรือเลี้ยงช้างมาก่อนนั่นเอง 

วัดคอกช้าง อำเภอท่าชนะ สุราษฎร์ธานี
คนที่เดินทางไปวัดคอกช้างหรือวัดวิชิตดิตถาราม ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้ไปวัดตามปกติธุระก็จะมีวัตถุประสงค์อยู่ 2 อย่าง คือ
พระครูประสงค์สารการ หรือหลวงปู่เทศน์
1 ไปสักการะรูปหล่อของพระครูประสงค์สารการ นามเดิมของท่านคือ เทศน์ โยธารักษ์  เมื่อขณะยังมีชีวิตท่านเป็นพระที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเคารพนับถือมาก ท่านมีความรู้เรื่องสมุนไพรที่หาตัวจับได้ยาก ประชาชนทั้งใกล้และไกลมักจะไปขอยาจากท่านอยู่เสมอ และหลวงปู่เทศน์ท่านก็มีอาคมขลัง เป็นที่ประจักษ์ของลูกศิษย์ลูกหามากมาย แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปนานมากแล้ว แต่คนในพื้นที่ก็ยังให้ความเคารพและศรัทธาและมักจะไปขอพึ่งบารมีของหลวงปู่เทศน์อยู่เสมอ โดยท่านได้มรณภาพไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2502 ซึ่งขณะมรณภาพท่านมีอายุ  81 ปี มีพรรษาที่ 60 
 พระพุทธประสงค์ วุฒิพงษ์ประสิทธิ์ 
2 ขึ้นไปสักการะพระนาคปรกและชมวิวเมืองของท่าชนะที่สวยงามบนเขาประสงค์ พระนาคปรกองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเขาประสงค์มีชื่อว่า
 พระพุทธประสงค์ วุฒิพงษ์ประสิทธิ์ โดยมีที่มาและการก่อสร้างที่ค่อนข้างพิศดาร ดังนี้
พระนาคปรกองค์ใหญ่ บนเขาประสงค์ที่วัดคอกช้าง ท่าชนะ

พระนาคปรกองค์นี้ที่ชื่อว่า พระพุทธประสงค์ วุฒิพงษ์ประสิทธิ์ ประธานารถบพิธ ท่าชนะมงคล  มีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดามาก โดยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 ผู้เขียนได้มีโอกาสไปพบกับกำนันเคว็ด (สิบเอกวุฒิ  แก้วเกษม) เป็นครั้งแรก ท่านเป็นอดีตกำนันตำบลท่าชนะ ผู้ที่สร้างพระนาคปรกองค์นี้ด้วยตนเองเมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว ได้เล่าให้ฟังว่า

เดิมทีท่านเป็นข้าราชการทหารยศสิบเอก ได้รับภารกิจต้องไปรบในสงครามเวียดนาม ก่อนไปราชการสงครามได้ทำการบนไว้ว่าถ้าปลอดภัยจากการไปสงครามกลับมาจะบวช 1 พรรษา ครั้นเมื่อได้กลับมาจากสงครามเวียดนาม เมื่อ พ.ศ. 2512 สิบเอกวุฒิก็ได้มาอุปสมบทที่วัดคอกช้างแห่งนี้ เห็นว่าบนหน้าผาใหญ่ด้านหลังของวัดมีหินใหญ่ตั้งอยู่มีความมั่นคงแข็งแรงมาก  น่าจะสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่นี่ ก็เลยใช้เงินส่วนตัว จำนวน 7,000 บาท(ในสมัยนั้น) กับความร่วมมือของชาวบ้านในพื้นที่ลงมือสร้างพระนาคปรกองค์ใหญ่  เหตุที่เลือกสร้างพระนาคปรกเพราะสิบเอกวุฒิเกิดวันเสาร์มีพระนาคปรกเป็นพระประจำวัน    
พระนาคปรก วัดคอกช้าง
แต่ด้วยระยะเวลาที่จำกัดของพระวุฒิในขณะนั้น มีเวลาช่วงลาอุปสมบท เพียง 4 เดือน  จึงสร้างเสร็จเฉพาะองค์พระเป็นพระปางสมาธิเท่านั้นในปีพ.ศ. 2513 พญานาคที่จะมาปรกคลุมองค์พระไม่สามารถทำได้ทัน เมื่อครบกำหนดตามวันลาราชการ พระวุฒิก็ลาสิกขากลับไปเป็นทหารต่อ ถัดจากนั้นเวลาผ่านไปอีก 1 ปี ชาวบ้านตำบลท่าชนะก็ไปขอร้องให้สิบเอกวุฒิลาออกจากราชการทหารมาเป็นกำนันที่ตำบลท่าชนะ แต่ก็ไม่ได้มีการไปสร้างองค์พระเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จเป็นพระนาคปรกตามที่ตั้งใจไว้
ทางขึ้นไปจุดชมวิวและสักการะพระนาคปรก ที่วัดคอกช้าง
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมาอีกร่วม 46 ปี ถึงปี พ.ศ. 2559  สิบเอกวุฒิหรือกำนันเคว็ดจึงได้ตั้งใจรวบรวมเงินส่วนตัวจะสร้างพระนาคปรกที่วัดคอกช้างให้แล้วเสร็จตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก แต่เมื่อถึงเวลาจะสร้างจริงๆ ปรากฏว่าช่างทุกคนที่ไปทำงานพากันเจ็บป่วยจนทำงานไม่ได้ทุกคน และกำนันเคว็ดเองก็ได้ฝันมีคนมาบอกในฝันว่า คนที่จะสามารถสร้างนาคคลุมองค์พระใหญ่ได้ต้องเป็นพระเท่านั้น สืบหาแล้วไม่สามารถหาพระที่จะมาสร้างนาคบนองค์พระได้ เพราะต้องปีนทำงานบนผาสูง การทำงานค่อนข้างยากและอันตราย 

ด้วยความศรัทธาและตั้งใจแน่วแน่กำนันเคว็ดจึงตัดสินใจบวชพระอีกครั้ง ทั้งที่ตนเองไม่มีความรู้ในงานปูนปั้นเลยแต่ก็สามารถลงมือสร้างพญานาคขนาดใหญ่ขึ้นคลุมองค์พระได้อย่างสวยงาม  จนชาวบ้านศรัทธาและนำเงินมาทอดผ้าป่าช่วยสมทบทุน จนการก่อสร้างแล้วเสร็จ
พระปางต่างๆ ที่วางเรียงรายตลอดบันไดทางขึ้นสู่องค์พระนาคปรกวัดคอกช้าง ท่าชนะ
เป็นเรื่องแปลกและมหัศจรรย์ในที่ระหว่างการก่อสร้างพญานาคคลุมองค์พระ ด้วยมีผู้ป่วยปวดขารุนแรงรายหนึ่งอยู่ที่จังหวัดระนองและไม่เคยมาที่อำเภอท่าชนะเลย ได้ฝันมีคนบอกให้เดินทางมาไหว้พระนาคปรกใหญ่ที่ท่าชนะแล้วจะหาย  ก็ได้เดินทางมาที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ค้นหาไปทั่วแต่หาพระนาคปรกไม่เจอ  เพราะขณะนั้นพระวุฒิกำลังเริ่มลงมือก่อสร้างพญานาคยังไม่แล้วเสร็จ เมื่อผู้ป่วยรายนี้ทราบว่าพระวุฒิกำลังลงมือสร้างพระนาคปรกที่วัดคอกช้าง เมื่อเดินทางมาเห็นองค์พระและเจอกับพระวุฒิก็ได้เล่าความฝันให้พระวุฒิฟังและยังเล่าอีกว่า ทั้งลักษณะองค์พระและสถานที่เหมือนในภาพฝันของเขาเลย จึงได้ตัดสินใจนุ่งขาวห่มขาวเดินตามพระวุฒิบิณฑบาตรตอนเช้า แล้วช่วยกันสร้างพญานาคกับพระวุฒิ น่าแปลกที่อาการป่วยปวดขารุนแรงแต่สามารถเดินขึ้นลงบันไดจำนวน 270 ขั้น วันละหลายรอบ เพื่อช่วยกันนำอุปกรณ์ไปสร้างพญานาคคลุมองค์พระ เป็นเวลาถึง 15 วัน ปรากฏว่าอาการปวดขาของผู้ป่วยท่านนี้ก็หายไปอย่างไม่น่าเชื่อ จึงเป็นที่มาของความเชื่อว่าถ้าใครที่ป่วย โดยเฉพาะอาการปวดขา ปวดเข่า สามารถมาขอพรจากพระนาคปรกนี้แล้วจะหาย ซึ่งมีคนหายมาแล้วจริงๆ ที่ยืนยันตัวตนได้จำนวนหลายคน 
พระนอน ที่กำลังก่อสร้างบนเขาประสงค์ ที่วัดคอกช้าง ท่าชนะ
ที่น่าประหลาดคือ ระหว่างการก่อสร้างพญานาคขึ้นคลุมองค์พระ ปรากฏว่าไม่เคยมีอุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วยใดๆ เกิดขึ้นกับคณะทำงานเลย ทั้งๆที่การทำงานค่อนข้างเสี่ยงและอันตรายสูง และที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นคือพระวุฒิผู้สร้างและปั้นพญานาคไม่มีความรู้ในงานปั้นเลย   ท่านเล่าว่าในการทำงานปั้นพญานาคเหมือนมีเทวดามาชักนำว่าต้องทำอย่างนั้นต้องปั้นอย่างนี้ และน่าแปลกมากๆ ที่ผลงานการปั้นพญานาคสวยงามมากๆ  ครั้นเมื่อสร้างพญานาคคลุมองค์พระเสร็จ พระวุฒิก็ลาสิกขาออกมา และทุกวันนี้กำนันเคว็ดหรืออดีตพระวุฒิก็ยังไปพัฒนาต่อเติมงานบริเวณนั้น อยู่เสมอๆ  และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของอำเภอท่าชนะ 
สิบเอกวุฒิ หรือ กำนันเคว็ด ผู้มีศรัทธาอย่างแรงกล้าในการสร้างพระนาคปรกวัดคอกช้าง ท่าชนะ

พระนาคปรกองค์ใหญ่ เมื่อสร้างเสร็จได้รับเมตตาจากท่านเจ้าคุณฯ เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งชื่อองค์พระมีนามว่า พระพุทธประสงค์ วุฒิพงษ์ประสิทธิ์ ประธานารถบพิธ ท่าชนะมงคล ซึ่งวัดแล้วมีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร สูง 6 เมตร ประดิษฐ์ฐานอยู่บนหน้าผาสูงประมาณ 250 เมตร โดยต้องเดินขึ้นบันได  270 ขั้น บริเวณหน้าองค์พระเป็นจุดชมวิวของอำเภอท่าชนะที่สวยงามมาก นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสสามารถมองเห็นไกลถึงหมู่เกาะอ่างทอง สำหรับนักท่องเที่ยวแนะนำว่าควรขึ้นไปตอนเช้าตรู่นอกจากอากาศเย็นสบายแล้ว ลานชมวิวหน้าพระนาคปรกยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของอำเภอท่าชนะเลยทีเดียว
พระพุทธบาทจำลองโบราณ
ระหว่างทางขึ้นสู่พระนาคปรกวัดคอกช้าง ยังมีจุดแวะชมพระพุทธบาทจำลอง ที่สันนิษฐานว่านำมาประดิษฐานโดยอดีตเจ้าเมืองท่าชนะ และมีเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจของวัดคอกช้างอีกมากมายที่เราสามารถไปศึกษาได้ โดยเฉพาะอาจจะได้พบได้เจอกับกำนันเคว็ดที่แม้นว่าจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังมีศรัทธาอย่างแรงกล้าในการพัฒนาที่นี้ต่อไป
หมู่เกาะอ่างทอง นำเที่ยวโดยเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัว จากอำเภอท่าชนะ

สนใจเที่ยวสุราษฎร์ธานีทุกรูปแบบ เที่ยวสนุกได้ความรู้ ทั้งพาเที่ยวเกาะต่างๆ ด้วยเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัวและซิตี้ทัวร์รูปแบบต่างๆ เที่ยวเขื่อนรัชชประภา เที่ยวเขาสก เดินทางด้วยรถวีไอพี เน้นอาหารดี ที่นอนสบาย พาเที่ยวโดยคนพื้นที่ที่รู้จักแหล่งท่องเที่ยวดีกว่าใคร สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 084-625-9929

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

ไม่มีความคิดเห็น: