วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

ร้านอีสานต้มแซ่บ ท่าชนะสุราษฎร์ธานี

ร้านอาหารอีสานต้มแซ่บ ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี
 ร้านอาหารอีสานต้มแซ่บ ตั้งอยู่ที่ในตลาดอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี  แม้ว่าท่าชนะจะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมท่องเที่ยวหลายอย่างของสุราษฎร์ธานี มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งป่าเขานาและเล โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางทะเลที่บุกเบิกโดยบริษัทร้อยเกาะแอดเวนเจอร์จำกัด พานั่งสปีดโบ๊ทแบบส่วนตัวไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง เกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่าได้เลย สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทุกประเภทของจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้อย่างครบวงจร เช่นการไปเที่ยวค้างคืนที่แพกลางเขื่อนเชี่ยวหลาน ไปล่องแพและนั่งช้างที่อุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นต้น

เมนูอาหาร ร้านอาหารอีสานต้มแซ่บ
นักท่องเที่ยวที่ไปใช้บริการท่องเที่ยวที่อำเภอท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ปกติส่วนใหญ่ต้องไปกินอาหารทะเลสดๆ ราคาไม่แพง มีร้านอาหารทะเลอร่อยๆ ให้เลือกอยู่หลายร้านที่บริเวณหาดสำเร็จ ซึ่งถ้าไปทัวร์กับร้อยเกาะแอดเวนเจอร์มื้อเย็นเราก็จะพาไปกินอาหารทะเลแบบจัดเต็มกัน  ถ้าสั่งจองอาหารล่วงหน้าเรามีอาหารทะเลสดๆ เช่นปูม้า กุ้งทะเล หมึกวาย ราคาไม่แพงไปซื้อมาจากชาวประมงโดยตรง นำมาให้ปิ้งย่างเพิ่มได้จากเมนูปกติของทางร้านได้ด้วย แต่ย้ำว่าต้องสั่งล่วงหน้าเท่านั้น  
กินอาหารร้านอีสานต้มแซ่บ
แต่ถ้าเบื่ออาหารทะเลอยากกินอะไรแซ่บๆ อร่อยๆ ที่สำคัญราคาถูกด้วย ต้องแนะนำไปที่ร้านอีสานต้มแซ่บ ซึ่งเป็นร้านที่ผมพาแขกหรือลูกค้าไปกินที่นี่บ่อยมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านอาหารอีสานแต่ก็มีการปรับรสชาติจนอร่อยถูกใจลูกค้าท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่จะไปจากภาคกลาง จะสั่งรสชาติเข้มข้นก็ได้หรือจะปรับลดความแซ่บลงหน่อยก็ได้ เพราะหลายครั้งผมก็พาแขกชาวต่างชาติที่มาค้างที่ท่าชนะหลายๆ วัน ไปกินที่ร้านนี้ด้วย
ต้มแซ่บเครื่องใน ร้านอีสานต้มแซ่บ
ไปกินอาหารร้านอีสานต้มแซ่บ ที่อำเภอท่าชนะ มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมาก รวมๆ แล้วน่าจะเกือบครึ่งร้อยรายการ  มีทั้งสั่งมาเป็นหม้อๆ หรือจานใหญ่ๆ หรือจะสั่งเป็นอาหารตามสั่งก็ได้เช่นกัน อร่อยทุกเมนู แต่มาร้านอีสานต้มแซ่บ แนะนำเลยว่าต้องสั่งเมนูพระเอกของทางร้านนั่นก็คือ ต้มแซ่บ  มีให้เลือกย่อยไปอีกหลายรายการเช่น ต้มแซ่บเครื่องในหมู , ต้มแซ่บเครื่องในเนื้อ และต้มแซ่บกระดูกอ่อน เป็นต้น
เครื่องในเนื้อลวกจิ้ม ร้านอีสานต้มแซ่บ ท่าชนะ
เมนูเด็ดอื่นๆ ของร้านอีสานต้มแซ่บ ที่ตลาดอำเภอท่าชนะ นอกจากเมนูต้มแซ่บแล้วยังมีเมนูเรียกแขกอีกหลายอย่าง ที่ผมชอบสั่งกินบ่อยๆ ได้แก่ เครื่องในลวกจิ้ม หมูทอด  ยำปลาดุกฟู กุ้งชุบแป้งทอด ส้มตำซึ่งก็มีย่อยไปอีกหลายส้มตำให้เลือกทั้งส้มตำไทย ส้มตำทะเล ส้มตำหอยดอง ส้มตำถาด เป็นต้น เรียกว่าไปกินร้านอีสานต้มแซ่บมีเมนูแทบจะครบทุกอย่างที่อยากกินในสไตล์ร้านอีสาน แถมมีเมนูซีฟู้ดบ้างบางอย่างให้เลือกสั่งกินด้วยเพราะท่าชนะเป็นอำเภอติดทะเล มีท่าเรือเอนกประสงค์ทั้งเรือนำเที่ยวและเรือประมง อาหารทะเลของท่าชนะจึงเป็นสินค้าเด่นและราคาไม่แพง
หมูทอดน้ำปลา ร้านอีสานต้มแซ่บ ท่าชนะ

ยำปลาดุกฟู ร้านอีสานต้มแซ่บ

อาหารตามสั่งเป็นจานก็มีให้บริการ
การเดินทางไปร้านอีสานต้มแซ่บ ง่ายมาก ตั้งต้นจากตลาดท่าชนะขับตรงไปทางสถานีรถไฟ เลยไปอีกนิดจนถึงตลาดนัดวันอังคารแล้วเลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 300 เมตรก็ถึงร้านอีสานต้มแซ่บอยู่ทางซ้ายมือ ร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ประมาณ 10.00-21.00 น. ยกเว้นวันเสาร์ที่ร้านปิดงดบริการ ถ้าจะสอบถามหรือจองโต๊ะล่วงหน้าก็ติดต่อได้ที่ทร. 062-213-0589

ติดตามสาระดีๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว การจัดนำเที่ยวแบบมาตรฐานครบวงจรราคาไม่แพง ทั้งในไทยและต่างประเทศ  ที่ http://tourthai.online

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564

พาเที่ยวตลาดใต้เคี่ยม ชุมพร

ตลาดใต้เคียม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร
 ตลาดใต้เคี่ยม อยู่ที่อำเภอละแม จังหวัดชุมพร เป็นตลาดเปิดใหม่ในยุคปัจจุบันย้อนหลังไปประมาณ 10 ปี  ตลาดใต้เคี่ยมเป็นตลาดท้องถิ่นที่จัดการโดยชาวชุมชนมีแนวคิดและจัดการที่ดีมาก ถือว่าเป็นตลาดสร้างสรรเพื่อการท่องเที่ยวได้เลย 

ตลาดใต้เคียม ชุมพร
ตลาดใต้เคียมเปิดขายสินค้าทุกวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ประมาณ 09.00 น. จนถึงช่วงบ่ายนิดๆ ตลาดก็จะเริ่มวายลง สินค้าเกือบทั้งหมดจะเน้นสินค้าประเภทอาหารท้องถิ่นมีเมนูแปลกๆ ที่หากินได้เฉพาะในภาคใต้ให้เลือกกินเยอะมาก แม่ค้าพ่อค้าส่วนใหญ่ก็ต้องผ่านการคัดเลือกจากทางตลาด มีการจัดการที่ดีทำให้มีอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ ให้เลือกหลากหลายและไม่ค่อยซ้ำกัน 
ตลาดใต้เคี่ยม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร
ด้วยนโยบายการจัดการที่ดีของตลาดใต้เคี่ยม ที่มุ่งให้ใช้วัสดุธรรมชาติบรรจุอาหารแทนการใช้โฟมและถุงพลาสติก ทำให้ตลาดแห่งนี้มีขยะที่ย่อยสลายยากเหลือทิ้งน้อยมาก ถือเป็นตัวอย่างตลาดสร้างสรรในการรณรงค์ลดขยะพลาสติกได้ดีทีเดียว
ตลาดใต้เคียม
ความสนุกสนานของตลาดใต้เคียม จังหวัดชุมพร ในช่วงเวลาเที่ยงตรงทุกวันอาทิตย์ที่ตลาดเปิดทำการ แม่ค้าพ่อค้าทุกร้านภายในตลาดใต้เคี่ยมทุกร้านจะหยุดการขายชั่วคราวออกมาเต้นเพลงจังหวะสนุกสนานสร้างสีสันและความสนุกสนานเป็นกันเองกับคนที่ไปเที่ยวได้มากเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่อยู่ในตลาดก็สามารถสนุกร่วมเต้นไปกับเสียงเพลงที่สนุกสนานได้ด้วย กิจกรรมนี้จะมีอยู่ประมาณ 5 นาที ก็จะจบกิจกรรมกลับมาขายสินค้ากันตามปกติ
พาเที่ยวตลาดใต้เคี่ยม ชุมพร
สินค้าที่ขายในตลาดใต้เคี่ยม มีการแบ่งออกเป็น 7 โซน ร้านค้าเกือบทั้งหมดทำเป็นร้านแบบง่ายๆ มุงหลังคาด้วยจากอยู่ในดงต้นเคี่ยม สินค้าเกือบทั้งหมดจะเป็นสินค้าของชาวบ้านในพื้นที่ สินคาที่เด่นที่สุดก็คืออาหารพื้นเมือง ขนมพื้นบ้าน นอกจากนั้นก็มีสินค้าเกษตร สมุนไพร อาหารทะเลสด  และผักผลไม้ปลอดสาร  รวมไปถึงสินค้าแฮนด์เมดหลายอย่างก็มีให้เลือกซื้อหาด้วย
ตลาดใต้เคียม ชุมพร
มีโอกาสแวะไปเที่ยวจังหวัดชุมพร หรือผ่านไปทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถ้าตรงกับวันอาทิตย์และพอมีเวลาก็แนะนำให้แวะไปเที่ยวที่ตลาดใต้เคี่ยม ของอำเภอละแม โดยเฉพาะช่วงเวลาใกล้เที่ยงจะมีคนพลุกพล่านเยอะ นอกจากได้กินอาหารแปลกๆ และอร่อยแล้วก็ยังได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินใในการมาเที่ยวที่ตลาดใต้เคี่ยมแห่งนี้ด้วย 
ตลาดใต้เคียม ชุมพร
การเดินทางไปตลาดใต้เคี่ยม  จากถนนสายเอเซียก็ให้เลี้ยวเข้าไปในตัวอำเภอละแม มุ่งหน้าไปเส้นทางเลียบชายทะเล  แนะนำให้ตั้ง GPS นำทางไปจะเดินทางได้ง่ายที่สุดไม่ แต่จากสถานการณ์โควิด 19 ที่ระบาดหนักก็กระทบกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย ดังนั้นถ้าจะไปเที่ยวที่ตลาดใต้เคี่ยมในช่วงนี้ก็อาจจะต้องสอบถามข้อมูลก่อนดีที่สุด โดยสามารถสอบถามไปได้ที่โทร. 090-162-0847

ติดตามสาระดีๆ อีกมากมายได้ที่  http://tourthai.online
เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2564

คืนวันที่ 4 ของการไปแสวงบุญที่อินเดีย

โรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar
 สำหรับท่านที่ติดตามบทความมาตลอดจะรู้ว่าคืนนี้เราอยู่ในวันที่ 4 ของการเดินทางไปแสวงบุญตามรอยเส้นทางของพระพุทธเจ้าในโปรแกรมทัวร์ 4 สังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดียและเนปาล ซึ่งสามารถคลิ๊กไปดูบทความการเดินทางทุกตอนได้ ที่นี่

โรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar
หลังจากคณะของเราทั้ง 10 คนได้ออกมาจากวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่กุสินารา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย รถก็ได้พาเดินทางไปเช็คอินเข้าพักที่โรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar ซึ่งเป็นคืนแรกของการเดินทางในอินเดียที่วันนี้เราได้เข้าพักในโรงแรมของคนอินเดีย เพราะก่อนนี้นอนในวัดไทยมาก่อนทั้ง 3 วัน 
โรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar
การเข้าพักค้างคืนที่วัดไทยในประเทศอินเดีย ก็มีความสะดวกสบายน้องๆ โรงแรมเลยทีเดียว อีกทั้งอาหารการกินก็อร่อยถูกปากเพราะทำโดยแม่ครัวพ่อครัวคนไทย วัตถุดิบทำอาหารหลายอย่างก็นำไปจากเมืองไทย ที่พักของวัดไทยเกือบทุกแห่งในอินเดียทั้งสะดวกและสบายมากเพราะเขาสร้างที่พักเพื่อการต้อนรับนักแสวงบุญชาวไทยที่เดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานทั้ง 4  โดยเฉพาะ แยกส่วนที่พักของผู้เดินทางไปแสวงบุญออกมาจากส่วนที่พักของสงฆ์  แต่ทั้งนี้เพื่อความสะดวกการจะเข้าไปพักค้างคืนและใช้บริการอาหารของวัดไทยต่างๆ ในประเทศอินเดียก็ควรประสานงานโดยตรงไปที่วัดนั้นๆ ล่วงหน้า
บริเวณด้านหน้า โรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar
คืนนี้คณะของเราพักกันที่ โรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar แม้นว่าจะเป็นโรงแรมของคนอินเดียซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู แต่ทางโรงแรมคงเน้นให้การต้อนรับคนไทยและผู้ที่เดินทางมาสักการะสังเวชนียสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาด้วย โรงแรมนี้ก็ไม่ได้ใหญ่มาก มีทั้งหมด 3 ชั้น ความสะดวกสบายก็ประมาณโรงแรม 3 ดาวบ้านเรา ราคาที่พักก็ไม่ได้แพง  มีอาหารเช้าง่ายๆ สไตล์อินเดียให้บริการด้วย จะเลือกแบบรวมอาหารเช้ากับราคาที่พักก็ได้หรือจะไปหาอาหารพื้นเมืองนอกโรงแรมกินโดยไม่เอาอาหารเช้าของโรงแรมก็ได้ แต่พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้ามืดเพื่อข้ามด่านที่โสเนารีเข้าสู่ประเทศเนปาล จึงไปหาอาหารเช้าเอาข้างหน้าเพื่อทำเวลาเข้าด่านแต่เช้าจะดีกว่า 
ห้องพระ ในโรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar
 คงมีคนไทยเป็นจำนวนไม่น้อยที่มาพักที่โรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar เพราะสามารถพูดภาษาไทยง่ายๆ กับทางโรงแรมได้นิดหน่อย และทางโรงแรมจัดห้องพระไว้เห็นเด่นชัดทันทีที่เข้าไปในโรงแรมเลยแสดงว่าเขาก็คงให้ความสำคัญกับลูกค้าที่นับถือศาสนาพุทธจำนวนมากที่เดินทางมาพักที่นี่ก็ได้

ร้านอาหาร Lumpini Pop Light Restaurant
ส่วนอาหารเย็นวันนี้ เราตั้งใจให้คณะที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ได้ลิ้มรสอาหารแบบอินเดียจัดเต็มเป็นมื้อแรก หลังจากเน้นอาหารไทยมาตลอดจนเผลอคิดว่ายังเที่ยวอยู่ในเมืองไทย ก็เลือกไปกินที่ร้านอาหารชื่อว่า Lumpini Pop Light Restaurant ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับโรงแรมที่เราพักไม่ไกลมาก มื้อเย็นวันนี้ให้ทุกคนเลือกสั่งเมนูตามอัทธยาศัยมากินด้วยกัน เพราะเข้าใจได้ว่าส่วนใหญ่คณะที่ไปไม่คุ้นเคยกับอาหารที่นั้น แม้นว่าทุกคนไม่รู้จักหน้าตาของอาหารที่จะสั่งมากินและบางคนอาจจะอ่านเมนูอาหารไม่ได้เพราะมีแต่ภาษาอินเดียและภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่มีปัญหาในการเลือกอาหารที่จะกินเพราะมีรูปภาพอาหารประกอบในรายการเมนูชัดเจนให้เลือกตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เมนูอาหารรองท้องที่ร้าน  Lumpini Pop Light Restaurant
ระหว่างรออาหารหลัก ทางหัวหน้าคณะผู้พามาเที่ยวก็สั่งไจกับจาปาตีมาให้กินคู่กับซุปถั่วและมีน้ำซุปแบบอินเดียมาให้ทุกคนรองท้องไปพลางๆ ก่อน ก็ถือว่าอาหารอินเดียมื้อแรกแบบจัดเต็มโดยการให้ทุกคนเลือกสั่งตามอัทธยาศัยโดยดูจากภาพเมนูอาหารก็ถูกปากทุกคนกันพอสมควร เพราะไม่มีใครกินเหลือเลย ยกเว้นในคณะของเรามีแม่ชีมาด้วย 1 ท่าน เราก็เลยมีแค่น้ำปานะเป็นชาอินเดียร้อนๆ ให้เท่านั้น
บรรยากาศร้าน  Lumpini Pop Light Restaurant

ไจ หรือชาสไตล์อินเดีย ทั้งเข้มและข้นรสชาติหวานมัน  อร่อยดี

จาปาตีกินคู่กับซอสถั่ว

2 ภาพอาหารชุดหลัง ผมเป็นคนสั่งมาเองแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว  หน้าตาประมาณสปาเก็ตตี้หรือผัดเส้นอะไรซักอย่าง กินคู่กับแกงกะหรี่ และเมนูไก่ผัดกับเครื่องเทศ ปกติชาวอินเดียส่วนใหญ่ที่นับถือฮินดูจะกินมังสวิรัติ  ไม่แน่ใจว่าโซนนี้คนนับถือศาสนาใดจึงมีเนื้อสัตว์ด้วย อาหารก็อร่อยดี รสชาติแตกต่างกับอาหารที่เราคุ้นเคยเพราะหนักไปทางรสหวานมันและหอมกลิ่นเครื่องเทศนิดๆ แต่ผมชอบกินเครื่องเทศอยู่แล้วเลยไม่ใช่ปัญหา 

เมื่อได้เวลาที่ทุกคนกินอิ่มกันเรียบร้อยแล้ว ก็นัดแนะเวลาการเดินทางวันพรุ่งนี้ซึ่งย่างเข้าวันที่ 5 ของการเดินทางในประเทศอินเดียแล้ว พรุ่งนี้เราจะเดินทางแต่เช้าเพื่อผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองข้ามด่านไปประเทศเนปาล เพื่อไปสักการะสวนลุมพิธีสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ติดตามตอนหน้านะครับ คืนนี้เดี๋ยวกลับจากร้านอาหารก็พาคณะเข้าโรงแรมพักผ่อนกันเลย เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้ามืด 
อาหารร้าน ร้าน  Lumpini Pop Light Restaurant
ติดตามอ่านบทความทั้งหมดใน ประสบการณ์เดินทางไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 8 วัน ในประเทศอินเดียและเนปาล ได้ที่   www.rkatour.com

สนใจเดินทางไปทัวร์แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระพุทธศาสนา สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน รวมถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งพุทธกาล  สอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่ โทร. 084-625-9929  

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2564

ตกปลากดทะเลชายฝั่ง ที่ท่าชนะสุราษฎร์ธานี

ตกปลากดชายฝั่ง ที่ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี
ตกปลากดทะเลที่ชายฝั่งปากอ่าวท่าชนะ สุราษฎร์ธานี วันที่ไปตกปลาครั้งนี้ตรงกับวันที่ 23 กันยายน 2564 เช็คน้ำทะเลแล้วมีน้ำขึ้นน้ำลง 2 รอบ น้ำทะเลช่วงนี้เป็นระดับกลางๆ ไม่สูงมากแต่ก็ไม่น้อยเกินไป   คำนวณแล้วมีลุ้นในการตกปลาทะเลแน่ๆ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ก็อยู่ที่ฝีมือแล้วละ

ช่วงนี้ฝนตกหนักเพราะมีพายุเตียนหมู่เข้ามา แม้นว่าจะมีผลกระทบหนักทางภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลางมีน้ำท่วมหนักในหลายจังหวัด  แต่ที่อำเภอท่าชนะก็มีฝนพอประมาณไม่หนักมาก แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงเอาเรือสปีดโบ๊ทไปตกปลาในทะเล ก็เลยชวนอีก 2 หนุ่มไปนั่งตกปลาชายฝั่งกัน ฝนไม่ตกก็น่าจะมีลุ้นบ้างแต่ถ้าฝนตกก็ขับรถกลับบ้าน ง่ายๆ แค่นั้นเอง

ตกปลากดทะเลที่ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี

เช็คตารางน้ำขึ้นน้ำลง รอบแรกน้ำขึ้นใกล้เที่ยงแดดร้อนเกินไป เลยเลือกไปตกปลาหน้าดินช่วงใกล้มืดดีกว่า ตอนกลางวันมีฝนพรำลงมานิดหน่อย อากาศกำลังดีทะเลไม่มีคลื่นลม วันนี้วางแผนไว้แล้วจะไปตกปลากดทะเลชายฝั่งกัน โดยเตรียมกุ้งสดที่ไปซื้อมาจากตลาดไว้ทำกับข้าวตั้งแต่เช้า แบ่งมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 5-6 ตัว ได้ประมาณ 30 ชิ้น เท่านี้ก็เหลือเฟือ  จัดการโรยเกลือป่นลงไปคลุกเขย่ากับกุ้งที่หั่นไว้จนเข้ากันแล้วเก็บแช่ในตู้เย็นทำเป็นกุ้งหมักเกลือเตรียมไว้ก่อน 

ข้อดีคือกุ้งหมักเกลือ คือเนื้อกุ้งจะเหนียวขึ้นไม่เปื่อยและไม่หลุดง่ายเวลาใช้ตกปลา อีกทั้งเนื้อกุ้งก็เน่าช้ากว่ากุ้งสดมากหากไม่ได้แช่น้ำแข็ง และไม่ต้องกลัวปลาระแวงไม่กินเหยื่อเพราะเกลือที่นำมาหมักกุ้งมันก็เกลือทะเลเวลาเหยื่อลงน้ำมันก็เจือจางไปกับน้ำทะเลเองแทบไม่มีผลใดๆกับการใช้ตกปลาเลย

ตกปลากดทะเลที่แนวหินกันคลื่น อำเภอท่าชนะ สุราษฎร์ธานี
ครั้นได้เวลาประมาณ 18.30 น. แดดก็ร่มลมก็เงียบ ก็ขับรถไปที่แนวหินกันคลื่นฝั่งตรงข้ามกับท่าเรือเอนกประสงค์อำเภอท่าชนะ ซึ่งเป็นจุดให้บริการเรือสปีดโบ๊ทนำเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองของบริษัทร้อยเกาะแอดเวนเจอร์ จอดรถที่หาดสวนสนเดินไปจนสุดแนวหินกันคลื่นถึงกระโจมไฟที่บอกสัญญาณเรือ ซึ่งขณะนั้นน้ำทะเลกำลังลงเรื่อยๆจากตารางน้ำรู้ว่าน้ำทะเลจะลงต่ำสุดประมาณ 21.30 น. ก็ไม่รอช้าลงมือเกี่ยวเหยื่อตกปลากันเลย
ตกปลาชายฝั่งที่ท่าชนะ
ใช้เวลารอไม่นาน ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามากินเหยื่อ มันคือปลาไหลทะเลหรือปลาไหลมูทูนั่นเองทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ เวลามันกินเบ็ดจะมีอาการเหมือนติดหินคือมันจะมุดลงรูทันที ถ้าไม่รู้ก็ดึงกันสายเบ็ดขาดกันเปล่าๆ ได้ปลาไหลมูทูมาหลายตัวแต่มันไม่ใช่ปลาที่เราต้องการก็ปล่อยไป พอเริ่มมืดน้ำทะเลก็ไหลลงแรงและเร็วขึ้น ก็ถึงเวลาที่รอคอยเริ่มมีปลากดทะเลเข้ามากินเหยื่อ แรกๆ ก็ตัวเล็กหน่อย ยิ่งมืดตัวก็ยิ่งโต
ตกปลากดทะเลชายฝั่ง ที่แนวหินกันคลื่น ท่าเรืออำเภอท่าชนะ
ตอนแรกตั้งใจกะว่าจะอยู่ตกปลากันจนถึงช่วงหัวน้ำขึ้นซัก 4 ทุ่มค่อยกลับกัน แต่พอประมาณสองทุ่มนิดหน่อยก็เริ่มมีฝนพรำลงมา มีเสียงฟ้าร้องไกลๆ ก็ไม่อยากตากฝนและไม่อยากถือคันเบ็ดซึ่งเป็นกราไฟท์ล่อฟ้า ก็รีบเก็บของขึ้นรถกลับบ้านปลาตัวเล็กก็ปล่อยไป รวมเวลาที่มานั่งตกปลากันเกือบ 2 ชั่วโมงก็ไม่เสียเปล่าได้ปลากดขนาดพอใส่แกงมา 2 ตัว เอามาทำแกงส้มปลากดทะเลได้ 1 หม้อใหญ่ที่ใส่หน่อไม้ดองเยอะๆ เพราะมีปลาน้อย  กินอร่อยดีเพราะปลาที่ได้สดมากๆ  
ปลาไหลมูทู แขกไม่ได้รับเชิญ
หากสนใจเช่าเรือสปีดโบ๊ทไปตกปลาที่อ่าวท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือต้องการไปนั่งตกปลาชายฝั่งชิวๆ ริมหาด รวมถึงขอคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดหาอุปกรณ์ไปตกปลาที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 084-625-9929  และติดตามเรื่องเล่าและสาระดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://tourthai.online
เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

ตกปลาเก๋าชายฝั่ง ที่อ่าวท่าชนะ

ตกปลาเก๋าชายฝั่ง อ่าวท่าชนะ สุราษฎร์ธานี
ตกปลาเก๋าชายฝั่ง อ่าวท่าชนะ สุราษฎร์ธานี สำหรับคนที่ชื่นชอบตกปลาทะเลคงไม่มีปลาอะไรที่กินเหยื่อดีและไวเท่าปลาเก๋าอีกแล้ว ถ้ามีตัวรับรองว่ากัดกระจาย เป็นปลาทะเลที่ตกแล้วกินเหยื่อเร็วมากที่สุดชนิดหนึ่งเลย แต่ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าที่หมายแหล่งตกปลานั้นมีปลาเก๋าอาศัยอยู่และต้องรอจังหวะน้ำทะเลด้วยนะ

ตกปลาเก๋าชายฝั่งที่ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี
แหล่งตกปลาเก๋าชายฝั่งของอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ต้องยกให้เป็นหมายมหาชน คือปริเวณปลายแนวหินกันคลื่นของท่าเรือเอนกประสงค์อำเภอท่าชนะ ซึ่งเป็นทั้งท่าเรือประมงและท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวมีเรือนำเที่ยวของบริษัทร้อยเกาะแอดเวนเจอร์พานักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่หมู่เกาะอ่างทอง เกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่าด้วย ถ้าเป็นจังหวะน้ำดีๆ จะเห็นพรานเบ็ดทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นมาตกปลาที่นี่หลายสิบคนเลยทีเดียว
ตกปลาเก๋าชายฝั่ง ที่สุราษฎร์ธานี
เคล็ดลับการตกปลาเก๋าชายฝั่ง บริเวณแนวหินกันคลื่นที่อำเภอท่าชนะ ให้ดูจังหวะของน้ำทะเลเป็นสำคัญ ต้องเลือกช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูงท่วมมาถึงแนวหินกันคลื่น เลือกวันที่คลื่นลมสงบใหม่ๆ จะเป็นช่วงหัวน้ำขึ้นก็ได้หรือหัวน้ำลงก็ดี จะใช้เหยื่อกุ้งสดก็ได้เพราะหาง่ายและราคาไม่แพง เอามาหมักเกลือเสียหน่อย ซึ่งสามารถย้อนไปดูวิธีทำกุ้งหมักเกลือได้ในบทความก่อนนี้ เวลาตีเหยื่อตกปลาเก๋าไม่ต้องขว้างเหยื่อไปไกล หย่อนๆแถวแนวหินนั้นแหละ ถ้ามีปลาเก๋าอาศัยอยู่ก็จะได้ตัวไม่ยาก แต่ต้องเลือกเซ็ทคันและรอกให้แข็งและกระชากปลาขึ้นมาให้ไวไม่อย่างนั้นก็ติดหินสถานเดียว เพราะทันทีที่ปลาเก๋างับเหยื่อมันจะพามุดเข้ากองหินทันที ดังนั้นใจต้องนิ่งมือต้องไวจึงมีสิทธิ์ได้ตัวปลาเก๋ามาเชยชม
ตกปลาเก๋าที่ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี
สำหรับคนที่ชอบตกปลาด้วยเหยื่อปลอม ก็สามารถนำเหยื่อปลั๊กขนาดเล็กหรือขนาดกลางมาตีปลาเก๋าแถวแนวกันคลื่นของท่าเรือเอนกประสงค์อำเภอท่าชนะได้ และปลาเก๋าก็ชอบกินเหยื่อปลั๊กเสียด้วย แต่การตกปลาเก๋าแนวหินมีความเสี่ยงสูงที่จะติดหิน ดังนั้นก็ต้องตั้งสติให้มั่นเลือกคันและรอกรวมทั้งชุดปลายสายให้เหมาะสม เลือกคันที่เวทแข็งๆ เสียหน่อย เพราะการตกปลาเก๋าแนวหินเราไม่มีสิทธิ์เล่นกับปลา ถ้าได้ตัวต้องวัดให้ลอยขึ้นมาทันทีเท่านั้น

ตกปลาเก๋าชายฝั่ง ที่แนวกันคลื่นท่าเรือเอนกประสงค์อำเภอท่าชนะ
การตกปลาเก๋าแถวแนวโขดหินกันคลื่นบริเวณท่าเรืออำเภอท่าชนะ ส่วนใหญ่จะได้ตัวของปลาเก๋าดีต้องตกช่วงกลางวันเริ่มได้ตั้งแต่หัวรุ่งจนใกล้มืด ถ้าเป็นมือเหยื่อปลอมแนะนำเลยให้ใช้เหยื่อปลั๊กที่ดำน้ำไม่ลึกเอาแค่ระดับต่ำกว่าผิวน้ำนิดหน่อยก็พอ สีของเหยื่อต้องดูสีของน้ำทะเลเป็นเกณฑ์ ถ้าน้ำขุ่นก็ต้องเลือกสีเหยื่อที่มันสว่างแวววาว แต่ถ้าเป็นช่วงที่น้ำทะเลใสก็ใช้เหยื่อปลั๊กเลียนแบบสีของลูกปลาธรรมชาติก็จะมีโอกาสได้ปลาสูงกว่า  เวลาขว้างเหยื่อก็ไม่ต้องตีไปไกลในทะเล แต่ให้ตีเฉียงๆ ขนานไปกับแนวหินกันคลื่น สังเกตได้ง่ายๆ ครับ ถ้าบริเวณไหนมีปลาเก๋าอาศัยอยู่และเป็นช่วงที่มีปลาเก๋าเข้ามาให้ตกได้ก็มักจะมีคนตีเหยื่อปลอมตกปลาเก๋าบริเวณนั้นอยู่แล้ว แต่หากต้องการไกด์หรือผู้ช่วยหรือต้องการจัดหาอุปกรณ์ในการตกปลาเก๋าก็ติดต่อขอคำปรึกษามาได้ที่โทร. 084-625-9929  แล้วจะตกปลาเก๋าชายฝั่งที่ท่าชนะได้ง่ายและสนุกขึ้นมาก

ติดตามสาระดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://tourthai.online

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2564

เปิดอบรมช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทชั้นต้น เรียน 4 วัน รุ่นที่ 10

เปิดอบรมหลักสูตรระยะสั้น ช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทรุ่นที่ 10
 วิทยาลัยการอาชีพไชยา ร่วมกับบริษัทร้อยเกาะแอดเวนเจอร์ จำกัด , บริษัททีแอนด์เอสมารีน(ประเทศไทย) จำกัด , บริษัทดอร์รั่ม จำกัด และบริษัทผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องยนต์เรือสปีดโบ๊ท เปิดอบรมหลักสูตรระยะสั้นฐานสมรรถนะ ซ่อมเครื่องยนต์เรือสปีดโบ๊ท(ชั้นต้น) รุ่นที่ 10  โดยเริ่มรับสมัครผู้เข้ารับการอบรมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2564 จำกัดผู้เข้ารับการอบรมเพียง 30 ท่านเท่านั้น

เปิดอบรมหลักสูตรระยะสั้น ช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ท
กำหนดการอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทชั้นต้น รุ่นที่ 10 เป็นหลักสูตรระยะสั้นเรียน 4 วัน (+ 1 วันสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเรียนขับเรือสปีดโบ๊ท)  อบรมระหว่างวันที่  4-8 ธันวาคม 2564 ที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี  จบแล้วได้รับ

  • ใบประกาศนียบัตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทชั้นต้น   
  • ใบอนุญาตนายท้ายเรือเดินทะเล ชั้น 2  (ใบอนุญาตขับเรือสปีดโบ๊ท)
  • ใบอนุญาตคนคุมเครื่องจักรยนต์ (ใบอนุญาตช่างประจำเรือ) 
  • เฉพาะผู้ที่มีใบนายท้ายเรือและคนคุมเครื่องจักรเรือชั้น 2 แล้ว สามารถนำใบอนุญาตตัวจริงมาสอบเลื่อนเป็นชั้น 1 ได้ 

** รับจำกัดเพียง 30 คนเท่านั้น ** สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. 084-625-9929

เปิดอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทระยะสั้น เรียน 4 วัน  ประจำปี 2564
รายละเอียดตารางการอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทชั้นต้น รุ่นที่ 10
อบรมหลักสูตรระยะสั้น ช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ท เรียน 4 วันที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา
การอบรมวันที่ 4 ธันวาคม 2564

08.30-09.00 น.  ลงทะเบียน/ตรวจสอบเอกสาร
09.00-10.00 น.  พิธีเปิดการอบรม
10.00-12.00 น.  ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงเรือสปีดโบ๊ท
12.00-13.00 น. อาหารกลางวัน
13.00-16.00 น.  ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เรือ (สาเหตุหลักที่สร้างความเสียหายให้เครื่องยนต์เรือ)
16.00-17.00 น.  ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการใช้ถังดับเพลิง
อบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ท
การอบรมวันที่ 5 ธันวาคม 2564

09.00-10.00 น.  การปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ประสบภัยทางน้ำ
10.00-11.00 น.   ความรู้เรื่องแบตเตอรี่เรือและการบำรุงรักษา
11.00-12.00 น.  สีและสายไฟในเรือ
12.00-13.00 น. อาหารกลางวัน
13.00-17.00 น.  ภาคปฏิบัติ การซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เรือ
  • ชุด Collจุดระเบิด
  • ชุดชาร์จไฟ
  • การเปลี่ยนยางพัดน้ำ
  • การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์
  • การซ่อมบำรุงและล้างคาบูเรเตอร์
อบรมช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ท 4 วัน ที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา
การอบรมวันที่ 6 ธันวาคม 2564

09.00-10.00 น.  การวางแผนเบื้องต้นในการซ่อมบำรุงเรือ
10.00-12.00 น.  ภาคปฏิบัติ การซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เรือ 
  • การอัดกำลังเครื่องยนต์
  • วิเคราะห์ปัญหาของเครื่องยนต์เรือ
12.00-13.00 น. อาหารกลางวัน
13.00-17.00 น.  ภาคปฏิบัติ ซ่อมแซมคาร์บูเรเตอร์ / ปัญหาและแนวทางแก้ไขของเครื่องยนต์เรือที่พบบ่อย
โครงการอบรมช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทระยะสั้น 4 วัน ที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา
การอบรมวันที่ 7 ธันวาคม 2564

09.00-12.00 น.  การใช้แผนที่เดินเรือ 
12.00-13.00 น. อาหารกลางวัน
สอนหลักสูตรซ่อมและขับเรือสปีดโบ๊ทระยะสั้น ที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา
13.00-15.00 น.  กฏหมายเรือและสอบรับใบอนุญาต(นายท้ายเรือและคนคุมเครื่องยนต์เรือ) โดย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสุราษฎร์ธานี
15.00-17.00น.  พิธีมอบวุฒิบัตรและปิดการอบรม
สอบและรับใบอนุญาตขับเรือสปีดโบ๊ท 
การอบรมวันที่ 8 ธันวาคม 2564 (เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเรียนขับเรือ เรียนที่ ท่าเรือเอนกประสงค์ท่าชนะ)

09.00-12.00 น. เรียนรู้และฝึกปฏิบัติการเดินเรือ
  • เรียนรู้ App.ที่ใช้ตรวจสภาพอากาศในการเดินเรือ
  • การตรวจเรือก่อนใช้งาน 
  • การนำเรือสปีดโบ๊ทลงน้ำ 
  • การนำเรือออกจากท่า 
  • การนำเรือเทียบท่า  
12.00-13.00 น. อาหารกลางวัน
13.00-16.00 น.  การนำเรือเดินทางในทะเล  
  • การใช้แผนที่เรือ GPSและอุปกรณ์ประจำเรือ
  • ปัญหาอุปสรรคในการเดินเรือและแนวทางแก้ไข
  • การนำเรือขึ้นจากน้ำ
16.00 น. จบการฝึกปฏิบัติทางเรือ
หลักสูตรช่างซ่อมเรือและขับเรือสปีดโบ๊ท
ค่าลงทะเบียน หลักสูตรซ่อมเรือสปีดโบ๊ทชั้นต้นรุ่นที่ 10 (4-8 ธันวาคม 2564) เรียนที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
  • เข้าอบรมวันที่ 4-7 ธันวาคม ที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา มีค่าลงทะเบียน 6,000 บาท 
  • เฉพาะผู้ที่สอบรับใบอนุญาตนายท้ายเรือและคนคุมเครื่องจักรเรือ  มีค่าลงทะเบียน  1,000 บาท (เป็นค่ารับรองเอกสาร , ตรวจร่างกายและออกใบรับรองแพทย์ , ค่าธรรมเนียมการสอบและรับใบอนุญาตขับเรือและคุมเครื่องยนต์เรือ, และค่าจัดส่งใบอนุญาตฯ) 
  • เฉพาะผู้ที่เรียนขับเรือ  มีค่าลงทะเบียน 10,000 บาท (เป็นค่าเช่าเรือสปีดโบ๊ทเพื่อใช้ในการฝึกปฏิบัติ วันที่ 8 ธันวาคม 2564)
เปิดอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดดบ๊ทระยะสั้นฐานสมรรถนะ ที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา
วิธีการลงทะเบียนเข้ารับการอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ท รุ่นที่ 10 อบรมระหว่าง 4-8 ธันวาคม 2564 ที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
  • ชำระค่าลงทะเบียน 6,000 บาท เข้าบัญชี คุณศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ ธนาคารกรุงเทพ หมายเลข 450-020-0177 พร้อมแจ้งรายละเอียดและส่งหลักฐานการโอนเงิน ชื่อ ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไป ที่โทร 084-625-9929
  • กรอกเอกสารลงทะเบียนเข้ารับการอบรมแล้วส่งไปพร้อมกับ สำเนาทะเบียนบ้าน , บัตรประชาชน  รูปถ่าย 2 นิ้ว และสำเนาการศึกษา(ถ้ามี/ถ้าไม่มีให้ผู้เข้าอบรมเขียนรับรองแทนในเอกสารลงทะเบียน) อย่างละ 1 ใบ ส่งไปที่ คุณศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ บจ.ร้อยเกาะแอดเวนเจอร์ 151/1 ม.5 ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี 84170 (โทร.084-625-9929)
อบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดดบ๊ทระยะสั้นฐานสมรรถนะ ที่วิทยาลัยการอาชีพไชยา
 เอกสารที่ต้องนำไปยื่นในวันสอบรับใบอนุญาตขับเรือ(นายท้าย+คนคุมเครื่องจักรเรือ)
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน จำนวน 6 ชุด
  • ภาพถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 6 รูป
สนใจเข้ารับการอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือระยะสั้นรุ่นที่ 10 สอบถามและสมัครได้ที่ โทร. 084-625-9929 รับจำกัดเพียง 30 ท่านเท่านั้น

วิทยาลัยการอาชีพไชยา เปิดอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ท
รายชื่อผู้ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทรุ่นที่ 10  
1 คุณธนน์พนน์ ผลเพิ่มวัชร์
2 คุณณวัฐ   ทองขาว
3 คุณเบญจพร  จงจิตร
4 คุณเกรียงไกร โรจนพรพันธุ์
5 คุณพิทยา  อินทร์วิเศษ
6 คุณเอกชัย ชาวราษฎร์
7 คุณรชานนท์ ชาญนาวี
8 คุณสุรศักดิ์ บุญฤทธิ์
9 คุณนัฐพร  สังข์น้ำมนต์
10 คุณอนนภณ นวลหุ่น

11 คุณวุฒิศักดิ์ เจริญสุข 
12 คุณวิทยา เนียรศิริ
13 คุณอภิสิทธิ์ วงศ์อินทร์  
14 คุณอธิวัฒน์  แสงส้ม
15 คุณอนุรัตน์ รัตนไพบูลย์
16 คุณภัคพงษ์ เอกกุทัพ 
17 คุณศิลปชัย มะเลโลหิต
18 คุณจำรัส  สุวรรณรัตน์
19 คุณปราโมทย์  แก้วมณี
20 คุณประมวล ไสยสัตย์ 

21 คุณเอกภพ มัยเทรยาวงษ์
22 คุณจิรารัตน์ มีแถม 
23 คุณศรีทอง อินทร์ศิริ
24 คุณณัฐวุฒิ เพ็ชร์ฤทธิ์  
25 คุณสาธิต วิบูลย์วัฒนกิจ
26 คุณธนชัย นพแก้ว  

รายชื่อผู้ที่อบรมเฉพาะสอบเลื่อนชั้นใบอนุญาตนายท้ายเรือและคนคุมเครื่องยนต์เรือ
1 คุณรุธิรา ฮอล (สอบเลื่อนชั้น)
2 คุณเอนก นุรักษ์ (สอบเลื่อนชั้น)
3 คุณฤทัย นวลหุ่น (สอบเลื่อนชั้น)
4 คุณอรุชา ยอดพิจิตร(สอบเลื่อนชั้น)

** ปิดรับสมัครผู้เข้าอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ท ภายในวันที่ 15 พ.ย. 2564 หรือเมื่อลงทะเบียนครบ 30 ท่าน **

สามารถสอบถามรายละเอียดการอบรมหลักสูตรช่างซ่อมเรือสปีดโบ๊ทเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 084-625-9929
เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ