วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

พาไปเช่าเรือเที่ยวชมความสวยงามของเขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี

นั่งเรือเที่ยวในเขื่อนรัชชประภา

พาไปนั่งเรือเที่ยวแบบ Day trip ในเขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 พี่ๆ ที่น่ารักเจ้าของภูษิตโฮมสเตย์จากจังหวัดสมุทรสงครามได้มาเยี่ยมที่บ้าน ซึ่งไม่ได้พบเจอกันนานมากแล้ว และเป็นการมาเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานีของพี่ภูษิตและแฟน เลยตั้งใจพาไปชมความสวยงามของเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งติดอันดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดสวยของประเทศไทย ตอนแรกตั้งใจจะพาไปนอนค้างคืนกันในแพกลางน้ำ แต่เนื่องจากพี่เขามาเยี่ยมแบบฉุกเฉินไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า ปรากฎว่าแพที่พักได้มีนักท่องเที่ยวจองไว้เต็มหมดแล้ว ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนพาไปนั่งเรือเที่ยวชมความสวยงามของบรรยากาศในเขื่อนรัชชประภาแทน

เรือนำเที่ยวในเขื่อนรัชชประภา
เช้าวันที่ 12 กุมพาพันธ์ เราก็เดินทางกันแบบสบายๆ  ไปถึงท่าเรือของเขื่อนรัชชประภา ช่วงนี้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่เขื่อนรัชชประภาเยอะมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดีที่เราได้ล็อคคิวเรือไว้ล่วงหน้าแล้วก็เลยไม่มีปัญหาในการไปนั่งเรือชมความสวยงามของเขื่อนรัชชประภา
เที่ยวเขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี
เห็นนักท่องเที่ยวหลายคนที่วอล์คอินเข้ามา หาเช่าเรือที่จะพาไปเที่ยวไม่ได้ เพราะคิวเรือแน่นเอี๊ยดยาวเหยียด หลายคนจึงได้เพียงแค่เที่ยวชมและถ่ายรูปบริเวณสันเขื่อน และเห็นหลายคนก็ต้องนั่งรอคิวเรือนำเที่ยวรอบใหม่อีกหลายชั่วโมง เพราะต้องรอเรือที่นำนักท่องเที่ยวชุดแรกกลับมาก่อน ก็น่าเห็นใจและคงเป็นบทเรียนอย่างดีว่า การเดินทางท่องเที่ยวโดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมการหวังน้ำบ่อหน้าแค่เดินวอล์คอินเข้าไปใช้บริการอาจจะไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาง่ายๆ ในสมัยนี้
เขาสามเกลอ เขื่อนรัชชประภา
พวกเราไปถึงท่าเรือเขื่อนรัชชประภาเวลาประมาณ 11.00 น. ก็ต้องรอเรือที่จะพาไปเที่ยวนิดหน่อย เพราะได้เรือเที่ยวที่ 2 คือต้องรอเรือที่พานักท่องเที่ยวชุดแรกกลับมาก่อน ถึงแม้พวกเราจะไปกันรวมเพียง 5 คน แต่ก็ใช้เรือใหญ่ 20 ที่นั่ง จะได้นั่งเรือเที่ยวกันแบบสบายๆ (แต่ความจริงคือถ้าจะรอเรือเล็ก 10 ที่นั่งก็ต้องรอเรือถึงบ่ายโมง ค่าเรือต่างกันนิดหน่อยไม่เป็นไร เอาสะดวกและสบายไว้ก่อน อิอิ)
กุ้ยหลินเมืองไทย เขื่อนรัชชประภา
เมื่อถึงคิวเรือของเรา ปกติก็มีเจ้าหน้าที่บริการมาแจ้งให้พวกเราเดินไปที่เรือ โดยคนไทยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานเพิ่มอีกคนละ 40 บาทและมีค่าธรรมเนียมใช้บริการท่าเรืออีก 20 บาท  แต่หากใครเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
นั่งเรือเที่ยวในเขื่อนรัชชประภา
เมื่อพาพี่ๆ ลงไปนั่งในเรือเรียบร้อย ก็ถึงเวลาพบกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจ เรือใช้เวลาวิ่งด้วยความเร็วพอประมาณระหว่างทางก็ได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามภายในเขื่อนรัชชประภา โดยเฉพาะแนวภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาดูสวยงามตามแต่จินตนาการของผู้เห็น  
นั่งเรือเที่ยวในเขื่อนรัชชประภา
อาจจะเป็นเพราะผมซึ่งเป็นเจ้าของบริษัททัวร์มาบริการพี่ๆ ด้วยตนเอง คนขับเรือวันนี้ก็เลยใจดีเป็นพิเศษ  พานั่งเรือซอกแซกถ่ายรูปในจุดที่มีภูเขาหินแปลกตาสวยๆ เรื่อยมาตามเส้นทางโดยมีจุดแวะจริงจังจุดแรกที่เขาสามเกลอหรือกุ้ยหลินเมืองไทยที่ถือได้ว่าเป็นโลโกและสัญลักษณ์ของเขื่อนรัชชประภาเลยทีเดียว
แวะเที่ยวถ่ายรูปชมภูเขารูปร่างแปลกตาในเขื่อนรัชชประภา
เขาสามเกลอ   เป็นจุดชมวิวที่สวยมากและน่ามหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของเขื่อนรัชชประภา แต่ละวันจึงมีนักท่องเที่ยวมาแวะชมเยอะมาก หลังจากจอดแวะถ่ายรูปกันจนสาแก่ใจ เรือก็พาเรามุ่งหน้าไปที่แพนางไพรซึ่งอยู่ห่างจากกุ้ยหลินไม่มาก นั่งเรือประมาณ 10 นาทีก็ถึง

แพนางไพร แพพักของอุทยานฯ ในเขื่อนรัชชประภา
แพนางไพร เป็นจุดบริการนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเขาสก ถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากอีกหนึ่งจุดของเขื่อนรัชชประภา นอกจากมีทัศนียภาพที่สวยงามแล้วบริเวณแพนางไพรยังเป็นวังปลาหรือที่อยู่ของฝูงปลาตะเพียนจำนวนมาก ปกตินักท่องเที่ยวที่นั่งเรือเที่ยวหรือไปค้างคืนที่แพพักในเขื่อนรัชชประภา เรือนำเที่ยวก็จะพามาแวะถ่ายรูปสวยๆ ที่แพนางไพรแห่งนี้ด้วย
วังปลา ที่แพนางไพรในเขื่อนรัชชประภา
ที่แพนางไพรในเขื่อนรัชชประภา นอกจากจะเป็นจุดชมวิวธรรมชาติสวยๆ แล้วที่แพแห่งนี้ยังให้บริการที่พักและอาหารแก่นักท่องเที่ยวในราคาไม่แพงด้วย โดยคนที่สนใจใช้บริการพักแรมที่แพนางไพรสามารถจองที่พักได้ที่เว็บไซต์ของกรมอุทยานฯ
แพนางไพร เขื่อนรัชชประภา
เมื่อเที่ยวชมและถ่ายรูปบนแพนางไพรกันพอสมควรแล้ว ก็ได้เวลานั่งเรือเดินทางกลับ ระหว่างทาง เรือยังพาวิ่งอ้อมไปถ่ายรูปสวยๆ นอกเส้นทางที่บริเวณกุ้ยหลินน้อยอีก ก็ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับคณะของพี่ภูษิตมาก ถึงกับเอ่ยปากว่าต้องกลับมาเที่ยวใหม่ คราวนี้จะวางแผนล่วงหน้าเพื่อจะได้มาสัมผัสประสบการณ์พิเศษในแพพักกลางน้ำของเขื่อนรัชชประภาด้วย
เที่ยวเขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี
ก่อนจบบทความวันนี้ก็อยากชวนเชิญคนที่ชอบธรรมชาติสวยๆ ต้องลองหาโอกาสไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภาซักครั้ง เป็นการให้รางวัลชีวิตด้วยการไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติสุดสวย และหากตั้งใจไปเที่ยวที่เขื่อนรัชชประภาแล้วควรวางแผนแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะถ้าตั้งใจไปพักที่แพกลางน้ำหรือจะแค่นั่งเรือเที่ยวก็ตาม โดยสามารถเข้าไปดูข้อมูลกิจกรรมการท่องเที่ยวจองที่พักและจองเรือนำเที่ยวในเขื่อนรัชชประภาได้ที่ www.rkatour.com
บริการเรือนำเที่ยวและแพที่พักในเขื่อนรัชชประภา
สนใจจัดทริปเที่ยวทุกรูปแบบ รวมถึงจัดสัมมนาดูงาน นำเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดเที่ยวทั่วไทย และพาไปเที่ยวต่างประเทศ จัดได้ทั้งกรุ๊ปใหญ่และกรุ๊ปเล็กส่วนตัว ให้บริการนำเที่ยวแบบครบวงจร เดินทางแบบวีไอพี กิจกรรมสนุกอาหารอร่อยนอนสบาย บริการแบบมืออาชีพด้วยมาตรฐานบริษัททัวร์ในราคาไม่แพง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 084-625-9929

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ
www.rkatour.com

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

หมึกแห้งปลอดสารเคมี สุดยอดสินค้าของฝากน่ากินจากสุราษฎร์ธานี

หมึกแห้งปลอดสาร สุดยอดของฝากจากสุราษฎร์ธานี
อ่าวท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะสินค้าทางทะเลสดๆ ที่ขึ้นจากเรือใหม่ๆ โดยเฉพาะปูม้าและหมึกสาย 

เรือจับหมึก ในอ่าวท่าชนะ

หนึ่งในสินค้าขึ้นชื่อและเป็นสุดยอดของฝากจากอ่าวท่าชนะ คือ หมึกแห้งที่ทำโดยกลุ่มแม่บ้านชาวประมง ที่นำหมึกกล้วยสดๆจับขึ้นมาใหม่ๆ จากทะเล 

ทำหมึกแห้ง โดยกลุ่มแม่บ้านชาวประมงอ่าวท่าชนะ

พอเรือหมึกเข้าฝั่ง ก็จะนำหมึกที่จับได้มาทำความสะอาดแล้วเอาไปตากแดดแรงๆ ทันที จึงเป็นหมึกแห้งที่ทำสดใหม่ทุกวัน เนื้อหมึกแห้งกำลังดีและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่กินแล้วสัมผัสได้ถึงเนื้อหมึกที่แน่นเข้มข้นมีกลิ่นหอมของเนื้อหมึกตากแดดชัดเจนและรสชาติสัมผัสของเนื้อหมึกแห้งก็ไม่เค็มมากอร่อยกำลังดี เหมาะสำหรับนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู และเป็นเนื้อหมึกแห้งที่ไม่มีสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงรวมถึงไม่มีวัตถุกันเสียปนเปื้อนจึงมั่นใจได้ว่ากินแล้วปลอดภัย

หมึกแห้งปลอดสารจากอ่าวท่าชนะ สุดยอดของฝากจากสุราษฎร์ธานี

จุดเด่นของหมึกแห้งของกลุ่มแม่บ้านชาวประมง จากอ่าวท่าชนะ

  • ใช้หมึกกล้วยสดๆ ที่จับขึ้นมาจากทะเลใหม่ๆ นำมาทำความสะอาดแล้วตากแดดทันที จึงมั่นใจได้ในความสดของเนื้อหมึกที่นำมาทำวัตถุดิบ 
  • เนื้อหมึกแน่น เต่งตึงและไม่ยุ่ย เนื่องจากใช้หมึกสดใหม่มาทำทันที เมื่อนำไปประกอบอาหารจะได้เนื้อสัมผัสที่อร่อย
  • หมึกแห้งมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เพราะเน้นตากด้วยแดดแรงๆ เพียง 1-1.5 วัน เนื้อหมึกจึงไม่แห้งเหนียว มีรสชาติเข้มข้นและไม่เค็มจนเกินไป
  • มั่นใจได้ว่าปลอดภัย เพราะเป็นหมึกแห้งที่ทำแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน สะอาด ปลอดภัย ไม่ใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงแน่นอน

ขายหมึกแห้ง จากกลุ่มแม่บ้านชาวประมง ท่าชนะ
วิธีเก็บรักษาหมึกตากแห้งปลอดสารไว้กินได้นานๆ และเคล็ดลับการนำไปปรุงอาหารให้อร่อยน่ากินมากยิ่งขึ้น เนื่องจากหมึกตากแห้งของกลุ่มแม่บ้านท่าชนะ เป็นหมึกตากแห้งที่ไม่มียาฆ่าแมลงและไม่มียากันบูด ดังนั้นเมื่อซื้อไปแล้วควรเก็บในภาชนะมิดชิดและแช่ตู้เย็นไว้จะเก็บได้นานขึ้น เมื่อจะนำมาทำอาหารก็แบ่งเอาออกมาทำอาหารได้เลย แต่ถ้าสะดวกแนะนำว่า ให้นำหมึกแห้งที่ออกมาจากตู้เย็นไปตากแดดแรงๆ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง จะทำให้หมึกมีกลิ่นหอม เวลานำไปทำอาหารจะหอมน่ากินมากยิ่งขึ้น
หมึกแห้งปลอดสาร สุดยอดของฝากจากอ่าวท่าชนะ
เนื่องจากหมึกแห้งของกลุ่มแม่บ้านชาวประมงอำเภอท่าชนะ เป็นสินค้าตามฤดูกาล มีราคาขายขึ้นลงตามภาวะของตลาด โดยมีราคาแนะนำอยู่ระหว่าง 550-600 บาทต่อหมึกแห้ง 1 กิโลกรัม และแนะนำว่าควรสอบถามและสั่งจองไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด เพราะปกติจะมีแม่ค้ามาซื้อเหมาหมึกตากแห้งใหม่ๆ ไปขายทุกวัน
หมึกแห้ง สุดยอดของฝากจากสุราษฎร์ธานี
สนใจสั่งซื้อหมึกแห้ง จากกลุ่มแม่บ้านชาวประมงของฝากชื่อดังจากอ่าวท่าชนะ เป็นหมึกแห้งปลอดสารเคมีที่มีกลิ่นหอมน่ากิน ราคาไม่แพง บริการจัดส่งทั่วไทย สามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ที่โทร. 0846259929


ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ