ถึงสนามบินพาราณสี |
ใช้เวลาเดินทางอยู่บนเครื่องบิน 3.30 ชั่วโมง เราก็ไปถึงสนามบินพาราณสี คนท้องถิ่นเรียก Varanasi ชื่อเป็นทางการคือ Lal Bahadur Shastri International Airport เป็นสนามบินนานาชาติ ตั้งอยู่ที่ เมืองพาราณสี รัฐอุตตรประเทศ เราไปถึงสนามบินพาราณสีเวลา 10.30 น. ทั้งนี้เพราะประเทศอินเดียเวลาจะช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง จึงต้องปรับนาฬิกาของแต่ละคนตามเวลาท้องถิ่น ไม่อย่างนั้นจะยุ่งยากเรื่องเวลานัดหมายกับไกด์ท้องถิ่นเวลานำเที่ยวในแต่ละวัน
ออกจากสนามบินพารณสี มีรถนำเที่ยวมารอรับอยู่แล้ว |
ถึงสนามบินพาราณสี คนที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ จะรู้ว่าเราไม่สามารถเดินออกจาก Gate ไปรับสัมภาระได้เลยเหมือนเดินทางในประเทศ เพราะเราต้องไปผ่านด่านตม.ของประเทศอินเดีย กรอกเอกสารสำแดงตนและระบุที่พักอ้างอิงในอินเดีย รวมทั้งกรอกประวัติสุขภาพด้วย ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างล้วนเป็นภาษาอังกฤษ และเนื่องจากเจ้าหน้าที่ด่านตม.มีน้อย คนรอคิวยื่นเอกสารมีเยอะ การสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงการกรอกเอกสารจึงทำได้ค่อนข้างยากต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก แต่ถ้าเดินทางกับคณะทัวร์หรือมีพี่เลี้ยงนำเดินทาง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้มีประสบการณ์ดีอยู่แล้ว ไกด์หรือหัวหน้าคณะทัวร์ที่พาไปจึงสามารถช่วยกรอกเอกสารให้ได้เพียงแต่รอเวลานิดหนึ่งเพราะคณะส่วนใหญ่เดินทางกันไปหลายคน กลุ่มของเราทั้ง 10 คน ยกเว้นผู้นำเที่ยวต่างไม่เคยมาอินเดียจึงต้องอาศัยผู้นำคณะช่วยกรอกให้เป็นส่วนใหญ่ จึงได้ออกจาก Gate ของสนามบินเป็นคณะสุดท้าย
รถมินิบัสนำเที่ยวตลอดโปรแกรมการเดินทางครั้งนี้ |
วัดไทยพาราณสีพุทธวิปัสสนา |
ออกจากสนามบินพาราณสี รถก็พามุ่งหน้าสู่วัดไทยพาราณสีพุทธวิปัสสนา อยู่ที่ตำบลสารนาถ เมืองพาราณสี มีหลวงพ่อด็อกเตอร์จรัญเป็นเจ้าอาวาสดูแลอยู่ ซึ่งท่านเป็นพระสงฆ์ไทยรุ่นแรกๆ ที่มาสร้างวัดอยู่ที่อินเดีย วัดไทยพาราณสีแห่งนี้มีวัตถุประสงค์บริการที่พักหลับนอนรวมทั้งอาหารการกินเพื่อต้อนรับนักเดินทางแสวงบุญทั้งคณะสงฆ์และฆราวาสชาวไทยโดยเฉพาะอยู่แล้ว คณะของเราจึงได้รับความสะดวกสบายอย่างมากที่สุด หลังจากทานมื้อเที่ยงแสนอร่อยแล้ว หลวงพ่อจรัญก็อาสาพาไปสักการะธัมเมกขสถูปด้วยตัวท่านเองเลยทีเดียว ทำให้ยิ่งซาบซึ้งในความกรุณาของท่านยิ่งนัก
ธัมเมกขสถูป สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา |
ช่วงบ่าย คณะของเราก็ไปถึงธัมเมกขสถูป ความจริงก็อยู่ไม่ไกลจากวัดไทยพาราณสีพุทธวิปัสสนาที่เราพักเลย เดินมาก็ยังได้ ระยะทางไม่น่าจะถึง 1 กิโลเมตร แต่ทางคณะก็นั่งรถไปสบายๆ ไม่ต้องเดิน แต่ก่อนจะเข้าไปในธัมเมกขสถูป ผมขออนุญาตพาแวะออกนอกเส้นทางนิดนึง ตลอดเส้นทางบนฟุตบาทริมถนนก่อนถึงธัมเมกขสถูปมีร้านขายของที่ระลึกเยอะมาก ที่น่าสนใจก็เป็นงานแกะสลักหินอ่อนเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ และเสาอโศก รวมทั้งขันทำสมาธิของธิเบตที่ทำด้วยทองเหลืองเมื่อเอาไม้ถูวนรอบปากขันก็เกิดเสียงกังวาลที่ผมคิดว่ามันเพราะมากๆ ส่วนใหญ่เขาใช้ร่วมกับการสวดมนต์นัยว่าเสียงที่กังวาลของขันก่อให้เกิดสมาธิดีขึ้น สินค้าที่ระลึกส่วนใหญ่ที่วางขายราคาไม่แพงแต่การต่อรองราคาจะได้ราคาถูกลงมาก และที่สำคัญเราสามารถใช้เงินไทยซื้อของจากร้านค้าเหล่านี้ได้ด้วย แถมพ่อค้าแม่ค้าก็พอฟังและสื่อสารภาษาไทยนิดๆ หน่อยๆ กับเราได้ด้วย แสดงว่าต้องมีคนไทยมาที่นี่ไม่น้อยเลยทีเดียว
บรรยากาศข้างนอกก่อนเข้าธัมเมกขสถูป |
ใกล้ๆ ธัมเมกขสถูปมีสถานที่น่าสนใจเยอะมาก ตั้งแต่สวนที่เป็นป่าอิสิปตนมฤคทายวัน มีที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์โบราณคดีสารนาถซึ่งเก็บรวมรวมวัตถุโบราณสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามากมาย และยังมีวัดสำคัญๆ ที่น่าแวะชมอีกได้แก่ วัดไทยสารนาถและวัดเนปาล ซึ่งเราจะกลับมาแวะชมในวันหลังก่อนเดินทางกลับไทย เพราะถ้าไปวันนี้คงไม่ทัน แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปในธัมเมกขสถูป มีเรื่องที่ผมเพิ่งรู้เมื่อได้มาอินเดียว่า...
ธงชาติและธนบัตรของ อินเดีย |
ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่เป็นสถานที่ก่อเกิดของศาสนาและลัทธิความเชื่อมากมาย รวมทั้งศาสนาพุทธก็เริ่มต้นที่ประเทศอินเดีย แต่ศาสนาที่มีมาอย่างยาวนานหลายพันปีและเป็นศาสนาประจำชาติของอินเดีย คือศาสนาพราหมณ์ฮินดู จึงไม่แปลกที่เราจะพบเห็นลักษณะของการเคารพบูชาเทพเจ้ามากมายในอินเดีย แต่ทั้งที่ศาสนาหลักของคนอินเดียคือฮินดู แต่เราก็พบเห็นสัญลักษณ์ ธรรมจักร อันเป็นกงล้อแห่งธรรมที่เป็นสัญลักษณ์ของพุทธศาสนาอยู่กลางธงชาติอินเดีย มีหัวสิงห์ของเสาอโศก ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างขึ้นเพื่อประกาศให้ทราบถึงสถานที่สำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องพระพุทธศาสนา(พระพุทธเจ้า โดยเฉพาะที่สังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง) ก็อาจถือได้ว่าประเทศอินเดียก็ยอมรับและให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนามากเช่นกัน
ร้านขายของที่ระลึกเยอะมาก ตลอดแนวถนน ทางเดินไปธัมเมกขสถูป |
ด้วยเนื้อหาวันนี้ค่อนข้างยาวมากโดยเฉพาะสาระที่น่าสนใจของธัมเมกขสถูป และตอนกลางคืนเรายังไปล่องเรือท่องคงคายามราตรีชมพิธีมหาอารตีการบูชาไฟถวายแก่เทพเจ้าริมแม่น้ำคงคา ของชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดู ขอยกยอดไปเล่าต่อบทความหน้านะครับ
ติดตามอ่านบทความทั้งหมดใน ประสบการณ์เดินทางไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 8 วัน ในประเทศอินเดียและเนปาล ได้ที่ www.triptouragency.com
เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น