วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ไหว้หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย หนองคาย

หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย หนองคาย
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย หนองคาย ไปถึงจังหวัดหนองคายสิ่งแรกที่ต้องนึกถึงและแนะนำว่าควรไปห้ามพลาดเด็ดขาดคือ การไปสักการะหลวงพ่อพระใส แห่งวัดโพธิ์ชัย ซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองของจังหวัดหนองคาย หลวงพ่อพระใสนับถือกันว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และเป็นพระสำคัญคู่เมืองหนองคายมาเนิ่นนาน

วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย
วัดโพธิ์ชัย  เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญของจังหวัดหนองคาย  เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใสอันศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่มีตำนานผูกพันกับทั้งชาวไทยและชาวลาว เป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงสุดของผู้คนลุ่มน้ำโขง เชื่อกันว่าถ้าได้มาสักการะขอพรหลวงพ่อพระใสแล้วจะมีความสุข ประสบความสำเร็จได้สมความปรารถนา ดังนั้นใครไปถึงจังหวัดหนองคาย ก็ควรแวะไปกราบขอพรหลวงพ่อพระใสที่วัดโพธิ์ชัยเพื่อความเป็นศิริมงคลให้ได้
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย
ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อพระใส  หลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปหล่อรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัย  หล่อด้วยทองสุกอันเป็นเนื้อทองคำ  92 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีพระพุทธลักษณะอันงดงาม   เล่ากันมาว่าพระราชธิดาของพระไชยเชษฐาธิราชกษัตริย์ล้านช้างซึ่งมีด้วยกัน 3 พระองค์เป็นผู้สร้าง โดยได้มีการหล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์  มีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ และขนานนามพระพุทธรูปตามนามของพระธิดาทั้ง 3 องค์ไว้ด้วยว่า
  • พระเสริม ประจำพี่ใหญ่
  • พระสุก ประจำคนกลาง
  • พระใส ประจำน้องสุดท้อง
วัดโพธิ์ชัย หนองคาย
เดิมทีนั้นหลวงพ่อพระใสได้ประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์ ในปี พ.ศ. ๒๓๒๑ ตรงกับสมัยกรุงธนบุรีหลวงพ่อพระใสได้ถูกอัญเชิญไปไว้ที่เมืองเวียงคำ แล้วถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย เมืองเวียงจันทน์  ต่อมาในรัชกาลที่ ๓ ของกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าอนุวงศ์แห่งเมืองเวียงจันทน์คิดเป็นกบฎ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นจอมทัพยกพลมาปราบเจ้าอนุวงศ์ จากนั้นจึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม และพระใส ลงมาด้วย โดยอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ซึ่งผูกติดกันอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม
วัดโพธิ์ชัย หนองคาย
นการล่องแพอัญเชิญองค์พระทั้ง 3องค์  ล่องมาตามลำดับจนถึงน้ำโขง (ปากน้ำงึม) เฉียงกับบ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้เกิดพายุใหญ่ เสียงฟ้าคำรามคะนองร้องลั่น ในที่สุดพระสุกได้แหกแพจมลงไปในน้ำ ซึ่งอาการวิปริตต่างๆ ก็ได้หายไปเป็นอัศจรรย์ยิ่ง บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า "เวินสุก" และพระสุกก็จมอยู่ในน้ำตรงนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้  เหลือแต่พระเสริม พระใส ที่ได้นำขึ้นมาถึงเมืองหนองคาย พระเสริม ได้ถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใส ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง (ปัจจุบันคือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ)
สักการะหลวงพ่อพระส หนองคาย
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น (ข้าหลวง) อัญเชิญพระเสริมจากวัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคายไปประดิษฐานที่กรุงเทพฯ และได้อัญเชิญพระใสจากวัดหอก่องขึ้นประดิษฐานบนเกวียนจะอัญเชิญลงไปกรุงเทพฯ ด้วย แต่พอมาถึงวัดโพธื์ชัย หลวงพ่อพระใสได้แสดงปาฏิหาริย์จนเกวียนหัก ไม่สามารถอัญเชิญพระใสลงไปกรุงเทพได้ ได้แต่พระเสริมไปได้เพียงองค์เดียว โดยได้อัญเชิญไปประดิษฐาน  ณ วัดปทุมวนารามในกรุงเทพ  ส่วนหลวงพ่อพระใสเมื่อไม่สามารถอัญเชิญไปกรุงเทพได้จึงได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย จนถึงปัจจุบัน ความอัศจรรย์ของหลวงพ่อพระใสดังที่มานี้จึงได้สมญาว่า "หลวงพ่อเกวียนหัก" 
วัดโพธิ์ชัย หนองคาย
ประเพณีสำคัญเกี่ยวเนื่องกับหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย ทุกปีชาวหนองคายจะประกอบพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระใสแห่รอบเมือง เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้สรงน้ำขอพรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณียิ่งใหญ่มีผู้คนสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก 

จัดทริปเที่ยวจังหวัดหนองคาย
สนใจจัดทริปเที่ยวทุกรูปแบบ พาเที่ยวจังหวัดหนองคาย อุดรธานี และข้ามไปเที่ยว สปป.ลาว ทั้งจัดสัมมนาดูงาน นำเที่ยวทั้งกรุ๊ปใหญ่และแบบไพรเวทเที่ยวแบบกรุ๊ปเล็กส่วนตัว  ให้บริการนำเที่ยวแบบครบวงจร นำเที่ยวโดยคนพื้นที่ชำนาญเส้นทาง พาเที่ยวแบบวีไอพี กิจกรรมสนุก กินอาหารอร่อย เลือกที่นอนสบาย บริการแบบมืออาชีพด้วยมาตรฐานบริษัททัวร์ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 084-625-9929

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

ไม่มีความคิดเห็น: