วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2564

วัดพระเชตวันมหาวิหาร อินเดีย

ต้นโพธิ์พระอานนท์ ที่วัดพระเชตวันมหาวิหาร
 จากตอนที่แล้ว เราเล่ามาถึงวันที่ 6 ช่วงบ่ายของโปรแกรมไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย เมื่อเราเสร็จจากการแวะชมบ้านขององคุลีมาล ซึ่งคนอินเดียนับถือว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์มาก สามารถล้างบาปได้ จึงมีคนลักลอบเข้าไปแอบขุดดินและเศษอิฐเอาไปบูชามากจนที่สุดทางการของอินเดียต้องเอารั้วมาล้อมปิดมิดชิด ให้ชมบ้านเกิดขององคุลีมาลได้แต่ภายนอกเขตรั้วเท่านั้น เมื่อเราออกจากบ้านเกิดขององคุลีมาล รถนำเที่ยวก็พาคณะของเราทั้ง 10 คนเดินทางสู่วัดพระเชตวันมหาวิหารซึ่งอยู่ไม่ห่างกันไกลมากนักใช้เวลานั่งรถครู่เดียวก็ถึง

คณะฯ เข้าสักการะพระคันธกุฎี ในวัดพระเชตวันมหาวิหาร ประเทศอินเดีย

วัดพระเชตวันมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลสะเหต รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ปัจจุบันเหลือเพียงซากโบราณสถาน สถานที่นี้ได้รับการบูรณะจากทางราชการอินเดียเป็นอย่างดี  วัดพระเชตวันเป็นพุทธสถานสำคัญที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษานานที่สุดถึง 19 พรรษา มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย  อาทิเช่น  พระคันธกุฏีที่ประทับของพระพุทธเจ้า , ศาลสงฆ์ , เจดีย์พระอรหันต์ 8 ทิศ , กุฏิพระอรหันต์สาวกคนสำคัญ  , ต้นโพธิ์พระอานนท์ ที่ยังคงยืนต้นอยู่มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ,  สถานที่ที่พระเทวทัตและนางจิญจมาณวิกาถูกแผ่นดินสูบ  เป็นต้น

พระมูลคันธกุฎี กุฏิที่ประทับของพระพุทธเจ้าในวัดพระเชตวันมหาวิหาร

ความเป็นมาของวัดเชตวันมหาวิหาร หรือนิยมเรียกสั้นๆ ว่า วัดพระเชตวัน วัดแห่งนี้มีความเป็นมาที่น่าอัศจรรย์จนมีบันทึกเรื่องราวเป็นกิจลักษณะสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ด้วยวัดแห่งนี้เกิดจากความศรัทธาเลื่อมใสอย่างแรงกล้าต่อพระพุทธเจ้าของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งคณะเราได้นำไปเยี่ยมชมบ้านของมหาเศรษฐีใจบุญผู้ได้ชื่อว่ามหาอุบาสกผู้เป็นเลิศในการถวายทานเมื่อตอนก่อนหน้านี้แล้ว

ลานทรงแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า สถานที่เกิดเรื่องราวในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามากมาย

 วัดพระเชตวันมหาวิหาร  เดิมเป็นของเจ้าเชตเจ้าชายในราชวงศ์โกศลแห่งเมืองสาวัตถี มีเนื้อที่รวม 80 ไร่  โดยอนาถบิณฑิกะเศรษฐีได้ขอซื้อด้วยการนำเหรียญทองมาปูจนเต็มพื้นที่ ซึ่งรวมเป็นราคาที่แพงมหาศาลถึง 18 โกฏิ โดยมีเงื่อนไขต้องใช้ชื่อของเจ้าเชตเป็นชื่อวัดด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อวัดว่าวัดพระเชตวัน  วัดแห่งนี้อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้สร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ สิ้นเงินไปอีกรวม 36 โกฏิ จึงทำให้การสร้างวัดแห่งนี้มีราคามากถึง 54 โกฏิ ตั้งอยู่นอกเมืองสาวัตถี นับว่าเป็นวัดและที่มั่นสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสมัยพุทธกาล 

ภายในวัดพระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี อินเดีย

วัดเชตวันมหาวิหาร เป็นวัดที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษานานมากที่สุดถึง 19 พรรษา เป็นสถานที่เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามากมาย เช่น เรื่องของพระองคุลิมาล, นางปฏาจาราเถรี, พระนางกิสาโคตมีเถรี, การถวายอสทิสทาน, เรื่องพระพุทธองค์ทรงดูแลภิกษุไข้, พราหมณ์จูเฬกสาฏก, ทรงพยากรณ์สุบินนิมิต 16 ประการ, นางกาลียักษิณี, นางจิญมาณวิกาถูกแผ่นดินสูบ, พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ เป็นต้น ในส่วนพระสูตรนั้นมีจำนวนมาก ที่สำคัญ ๆ เช่น มหามงคลสูตร, ธชัคคสูตร, ทสธัมมสูตร, สาราณียธรรมสูตร, อหิราชสูตร, เมตตานสังสสูตร, คิริมานนทสูตร, ธัมมนิยามสูตร, อปัณณกสูตร, อนุตตริยสูตร, พลสูตร, มัคควิภังคสูตร, โลกธัมมสูตร, ทสนารถกรณธัมมสูตร, อัคคัปปทานสูตร, ปธานสูตร, อินทริยสูตร, อนริยสูตร และสัปปุริสธัมมสูตร โดยทั้งหมดทรงแสดง ณ วัดเชตวันมหาวิหารแห่งนี้

สถานที่สำคัญๆ ในเขตวัดพระเชตวันมหาวิหาร รัฐอุตตรประเทศ

สถานที่สำคัญภายในเขตของวัดเชตวันมหาวิหารในปัจจุบัน ที่ผู้ที่เดินทางแสวงบุญชาวไทยและจากทั่วโลก นิยมเดินทางไปสักการะบูชา ได้แก่ 

พระมูลคันธกุฎี กุฏิที่ประทับของพระพุทธเจ้าที่ได้ทำการขุดค้นปรับแต่งเป็นอย่างดี
 
อานันทโพธิ์ 

อานันทโพธิ์ ต้นโพธิ์ที่ปลูกโดยการดำริของพระอานนท์ในสมัยพุทธกาล เป็นต้นโพธิ์ที่ปรากฏหลักฐานในคัมภีร์และยังคงเป็นต้นโพธิ์ต้นเดียวที่ยังคงอยู่มาตั้งแต่ในสมัยพุทธกาลมาจนถึงปัจจุบัน จากอรรถกถากาลิงคชาดกระบุไว้ว่า  ครั้นสมัยพุทธกาลที่วัดเชตวันมหาวิหารอันเป็นวัดที่อนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีได้สร้างเพื่อถวายแก่พระพุทธเจ้า ครั้นเมื่อเวลาที่พระพุทธเจ้าเสด็จจาริกไปตามชนบทอื่นๆ เพื่อโปรดสัตว์ แต่ชาวกรุงสาวัตถีต่างก็ยังนำของหอมและดอกไม้มาเป็นเครื่องบูชาพระพุทธองค์อยู่เสมอ เมื่อไม่เจอพระพุทธเจ้าก็นำสิ่งสักการะเหล่านั้นไปวางไว้ที่ประตูพระคันธกุฎี กุฏิที่ประทับของพระพุทธเจ้า เมื่อความทราบถึงท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี จึงได้ปรึกษากับพระอานนท์เรื่องที่วัดเชตวันมหาวิหารไม่มีสิ่งบูชาแทนพระพุทธเจ้าเมื่อพระพุทธองค์ไม่อยู่ จึงขอรบกวนให้พระอานนท์ช่วยทูลถามเรื่องนี้กับพระตถาคต 

เมื่อมีโอกาสเหมาะสม พระอานนท์ได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เจดีย์มีกี่อย่าง พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบพระอานนท์ว่า เจดีย์มี 3 อย่างคือ ธาตุเจดีย์   ปริโภคเจดีย์  และอุทเทสิกเจดีย์   พระอานนท์ได้ทูลถามต่อว่าเมื่อพระองค์เสด็จจาริกไป ข้าพระองค์อาจจะกระทำเจดีย์ได้หรือไม่ พระศาสดาตรัสตอบพระอานนท์ดังนี้ว่า ธาตุเจดีย์ไม่อาจทำได้เพราะธาตุเจดีย์นั้นจะมีได้ในกาลที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว สำหรับอุทเทสิกเจดีย์ก็ไม่มีวัตถุปรากฏ เป็นเพียงเนื่องด้วยตถาคตเท่านั้น ต้นมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าอาศัยเป็นที่ตรัสรู้  ถึงพระพุทธเจ้าจะยังทรงพระชนม์อยู่ก็ตาม ปรินิพพานแล้วก็ตาม เป็นเจดีย์ได้เหมือนกัน

ต้นโพธิ์พระอานนท์ ในวัดพระเชตวันมหาวิหาร

พระอานนท์จึงได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญเมื่อพระองค์เสด็จไปจากพระมหาวิหารเชตวัน  คนทั้งหลายไม่ได้สถานที่เป็นที่บูชา  ข้าพระองค์จักขออนุญาตนำพืชจากต้นมหาโพธิ์มาปลูกที่ประตูพระเชตวัน พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า ดีแล้วอานนท์เธอจงปลูกเถิด เมื่อเป็นเช่นนั้นในพระเชตวันก็จักเป็นดังตถาคตอยู่เป็นนิตย์ พระอานนท์เถระจึงได้นำความไปบอกกล่าวแก่พระเจ้าโกศล  อนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี และนางวิสาขามหาอุบาสิกาเป็นต้น ให้ขุดหลุมปลูกต้นโพธิ์ที่ประตูพระเชตวันมหาวิหาร  แล้วพระอานนท์ได้กล่าวกับพระมหาโมคคัลลานะว่า ท่านขอรับ กระผมจักปลูกต้นโพธิที่ประตูพระเชตวัน ท่านช่วยนำเอาลูกโพธิ์สุกจากต้นมหาโพธิ์ให้กระผมทีเถิด พระมหาโมคคัลลานเถระได้รับคำ แล้วเหาะไปยังโพธิมณฑลเอาจีวรรับลูกโพธิ์ที่หล่นจากขั้วแต่ยังไม่ถึงพื้นดิน นำมาถวายพระอานนท์ภายในวันเดียวซึ่งอัศจรรย์มาก 

เมื่อได้ลูกโพธิ์จากต้นศรีมหาโพธิ์ พระอานนท์เถระได้แจ้งพระเจ้าโกศลว่า เราจักปลูกต้นโพธิ์ในที่นี้ พระเจ้าโกศลให้ราชบุรุษถือเครื่องอุปกรณ์ทุกอย่างเสด็จมาพร้อมด้วยบริวารใหญ่ในเวลาเย็น พร้อมด้วยอนาถบิฯณฑิกมหาเศรษฐี  มหาอุบาสิกาวิสาขา และผู้คนอีกมากมาย โดยพระอานนท์ได้ตั้งอ่างทองใบใหญ่ไว้ในที่ปลูกต้นโพธิ ให้เจาะก้นอ่างแล้วให้ลูกโพธิสุกแด่พระเจ้าโกศล ทูลว่า มหาบพิตรพระองค์จงปลูกโพธิ์สุกนี้เถิด  พระเจ้าโกศลทรงพระดำริว่า ความเป็นพระราชามิได้ดำรงอยู่ตลอดไป  ควรที่เราจะให้อนาถบิณฑิกมหาเศรษฐีซึ่งเป็นผู้เสียสละทรัพย์สินจำนวนมหาศาลสร้างวัดพระเชตวันเป็นผู้ที่สมควรปลูกต้นโพธิ์นี้ เมื่อทรงดำริดังนั้นพระเจ้าโกศลจึงได้วางลูกโพธิ์สุกนั้นในมือของอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี ท่านมหาเศรษฐีอนาถปิณฑิกะ จึงได้รวบรวมเปือกตมที่มีกลิ่นหอมมาแล้วฝังลูกโพธิ์สุกไว้ในเปือกตมนั้น พอลูกโพธิ์พ้นมือมหาเศรษฐี ขณะที่ฝูงชนทั้งปวงกำลังดูอยู่  ก็เกิดเหตุอัศจรรย์ได้ปรากฏลำต้นโพธิ์ประมาณเท่างอนไถ สูงห้าสิบศอก แตกกิ่งใหญ่ห้ากิ่งๆ ละห้าสิบศอกคือในทิศทั้งสี่และเบื้องบน ต้นโพธินั้นก็เป็นต้นไม้ใหญ่กว่าต้นไม้ทั้งปวงในทันใดนั่นเอง ด้วยประการฉะนี้

พระเจ้าโกศลได้รับสั่งให้เอาหม้อทองคำและหม้อเงิน  ๘๐๐ หม้อ ใส่น้ำหอมจนเต็ม ประดับด้วยดอกบัวเขียว ตั้งเป็นแถวแวดล้อมต้นมหาโพธิ์ แล้วรับสั่งให้ทำแท่นสำเร็จด้วยรัตนะเจ็ด โปรยปรายผสมทองสร้างกำแพงล้อมรอบ  ทำซุ้มประตูสำเร็จด้วยรัตนะ ๗ เครื่องสักการะได้มีเป็นอันมาก พระอานนท์เถระได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ขอพระองค์จงประทับนั่ง ณ โคนต้นโพธิ์ที่ข้าพระองค์ปลูก เข้าสมาบัติที่ข้าพระองค์เข้า ณ โคนต้นมหาโพธิ์ เพื่อเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชน  พระศาสดาได้ตรัสว่า พูดอะไรอานนท์  เมื่อเรานั่งเข้าสมาบัติที่ได้เข้าแล้ว ณ มหาโพธิมณฑล ประเทศอื่นก็ไม่อาจที่จะทรงอยู่ได้ พระอานนท์เถระกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชน ขอพระองค์จงใช้สอยโคนต้นโพธิ์นั้นด้วยความสุขเกิดแก่สมาบัติ  โดยกำหนดว่าใกล้ภูมิประเทศนี้เถิด พระศาสดาจึงทรงใช้สอยโคนต้นโพธินั้นด้วยความสุขเกิดแต่สมาบัติตลอดราตรีหนึ่ง

อานนท์โพธิ ในวัดพระเชตวันมหาวิหาร

ดังนี้ต้นโพธิ์นั้นก็ได้ชื่อว่า อานนท์โพธิ แปลว่าต้นโพธิ์ของพระอานนท์ที่ยังคงยืนต้นมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาร่วม 2,600 ปีแล้ว ปัจุบันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทางรัฐบาลอินเดีย มีชาวพุทธจากทั่วโลกเดินทางไปให้ถึงเพื่อสักการะบูชา ดังคำในอรรถกถาตอนหนึ่งที่ว่า  ดีแล้วอานนท์ เธอจงปลูกเถิด เมื่อเป็นเช่นนั้น ในพระเชตวันก็จักเป็นดังตถาคตอยู่เป็นนิตย์  การเดินทางไปสักการะต้นอานันทโพธิ์จึงเปรียบดังเดินทางไปเข้าเฝ้าตถาคตโดยนัยดังที่กล่าวมา

ดัดแปลงข้อความมาจากธาตุเจดีย์ ปริโภคเจดีย์ ปูชนียสถาน อรรถกถากาลิงคชาดก อุทเทสิกเจดีย์ เวไนยสัตว์ 

ร่องรอยสำคัญๆ ในสมัยพุทธกาล ที่รัฐบาลอินเดียดูแลเป็นอย่างดี

นอกจากนั้นภายในวัดพระเชตวันมหาวิหาร รัฐบาลอินเดียยังได้บูรณะร่องรอยสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่สำคัญๆ จากสภาพที่ชำรุดทรุดโทรม เป็นอย่างดี อาทิเช่น

  • ลานทรงแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า สถานที่เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามากมาย
  • หมู่กุฏิพระมหาเถระ
  • บ่อน้ำที่ใช้ในการสรงสนานของพระพุทธองค์ 
  • อัฏกะสถูป สถูปของพระอรหันต์ 8 ทิศ
  • เป็นต้น
  • พื้นที่ที่พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบซึ่งอยู่ก่อนถึงประตุทางเข้าวัดพระเชตวันนิดเดียว
  • ฯลฯ
เสร็จจากการชมวัดพระเชตวันมหาวิหารก็ร่วม 16.30 น.  สรุปได้ว่าเราโชคดีมากที่ได้มาเยือนวัดพระเชตวันมหาวิหารด้วยตัวเอง ได้เห็นสถานที่จริงกับตา  ได้สักการะต้นอานนท์โพธิ์ก็ประหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตามที่พระพุทธเจ้าเคยกล่าวไว้ในมูลเหตุของการปลูกต้นโพธิ์นี้

 คืนนี้เราจะไปนอนกันที่วัดไทยสาวัตถี ติดตามกันต่อในตอนหน้านะครับ
รถที่พาคณะของเราเที่ยวในประเทศอินเดียและประเทศเนปาลทั้ง 8 วัน

ติดตามอ่านบทความทั้งหมดใน ประสบการณ์เดินทางไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 8 วัน ในประเทศอินเดียและเนปาล ได้ที่  www.rkatour.com

สนใจเดินทางไปทัวร์แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระพุทธศาสนา สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน รวมถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งพุทธกาล  สอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่ โทร. 084-625-9929  
สามารถสมัครเป็นเพื่อนทางไลน์ หรือช่องทาง  https://lin.ee/dcUb0ed จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ๆและโปรโมชั่นทัวร์โดนๆ ที่อัพเดททุกวัน

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

ไม่มีความคิดเห็น: