วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2564

ปาวาลเจดีย์ สถานที่ปลงพระชนมายุสังขาร

ปาวาลเจดีย์ เมืองไวสาลี
เช้าของวันนี้เป็นวันที่ 4 ของโปรแกรมเดินทางไปแสวงบุญตามรอยเส้นทางของพระพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดียและเนปาล ซึ่งตรงกับวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563 หลังจากเรารับประทานอาหารเช้าและออกเดินทางจากวัดไทยไวสาลีตอนเวลา 07.30 น. ตามรายละเอียดที่ได้เล่าในบทความตอนก่อนหน้านี้แล้วนั้น เมื่อออกจากวัดไทยไวสาลี นั่งรถใช้เวลาไม่นานคณะของเราก็เดินทางไปถึงปาวาลเจดีย์

คณะแสวงบุญผู้ร่วมเดินทางไปในเส้นทางสายบุญตามรอยพระพุทธเจ้าที่อินเดีย

ปาวาลเจดีย์  ตั้งอยู่ที่เมืองเวสาลี บ้างก็เรียกไวสาลี ซึ่งแต่เดิมในสมัยพุทธกาลคือเมืองไพสาลี   ปัจจุบันอยู่ในเขตปกครองของเมืองปัตนะ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาอย่างมากด้วยเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตัดสินพระทัยปลงพระชนมายุสังขาร 

ภายในปาวาลเจดีย์ สถานที่พระพุทธเจ้าทรงปลงพระชนมายุสังขาร
การปลงพระชนมายุสังขารของพระพุทธเจ้า เกิดขึ้นที่ปาวาลเจดีย์แห่งนี้ในพรรษาที่ 45  ขณะมีพระชมมายุได้ 80 พรรษา ซึ่งเป็นพรรษาสุดท้ายของพระพุทธเจ้าและพระองค์ทรงอยู่ในช่วงเวลาที่อาพาธอย่างหนัก  ในปีนั้นพระพุทธองค์ทรงประทับที่เวฬุคามซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่นอกเมืองเวสาลี  ครั้นเมื่อถึงกาลออกพรรษาพระองค์ได้เสด็จดำเนินผ่านหมู่บ้านต่างๆ ในเมืองเวสาลีจนกระทั่งมาถึงปาวาลเจดีย์ พระองค์ได้ทรงหยุดพัก และ ณ ที่ตรงนี้ ในวันเพ็ญเดือน 3 (วันมาฆบูชา) พระพุทธองค์ทรงตัดสินพระทัยปลงพระชนมายุสังขาร โดยจะเสด็จปรินิพพานในอีก 3 เดือนข้างหน้าต่อจากนี้ซึ่งจะตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 (วิสาขบูชา)

ปาวาลเจดีย์ เมืองไวสาลี

เมื่อพระพุทธองค์ได้ทรงปลงอายุสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์ บ้านเวฬุคาม ชานเมืองเวสาลีแล้ว พอเสด็จพระราชดำเนินพ้นตัวเมืองไปเล็กน้อย ก็หันพระพักตร์กลับมาทอดพระเนตรเมืองเวสาลี พร้อมตรัสว่า "เวสาลีเอ๋ย ข้ามาครั้งนี้ได้มาเห็นเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว" 
สถานที่เสด็จประทับยืนทอดพระเนตรมองเมืองเวสาลีโดยพระอาการที่แปลกจากเดิม พร้อมทั้งรับสั่งเป็นนิมิตเช่นนั้น ได้สร้างเป็นเจดีย์สถานแสดงความสำคัญเรียกว่า นาคาวโลกเจดีย์ ( นาคาวโลก  แปลได้ว่า การเหลียวมองอย่างพญาช้าง เป็นการเหลียวดูโดยหันกายกลับมาทั้งหมด  เป็นอาการที่พระพุทธองค์ทรงทำเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว) ต่อจากนั้นถัดไปอีก 3 เดือน พระพุทธเจ้าก็ได้เสด็จปรินิพพานที่เมืองกุสินาราในวันเพ็ญ 6 เดือน

คณะเดินสวดมนต์ทักษิณาวัตร ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าทรงทำการปลงพระชนมายุสังขารในวันเพ็ญเดือนสามแห่งพรรษาสุดท้ายของพระองค์ ณ ปาวาลเจดีย์ สถานที่แห่งนี้  หลังจากพระองค์ได้ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณและได้เผยแพร่พระธรรมคำสอนนานถึง 45 ปี ปัจจุบันเวลาได้ผ่านล่วงเลยมายาวนานร่วม 2564 ปี ปาวาลเจดีย์ก็ได้เสื่อมโทรมลงไปตามกาลเวลาคงเหลือเพียงฐานล่างเท่านั้น  โดยทางการญี่ปุ่นได้เห็นความสำคัญของสถานที่นี้จึงได้มาสร้างซุ้มมุงหลังคาด้วยสังกะสีเป็นรูปโค้งทรงกลมและมีรั้วเหล็กกั้นให้โดยรอบเพื่อรักษาสภาพไว้ให้คงอยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด

ซุ้มหลังคาที่ครอบปาวาลเจดีย์
เหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลาที่พระพุทธเจ้าทรงปลงพระชนมายุสังขาร  ได้เกิดขึ้น ณ ร่มไม้แห่งหนึ่งในปาวาลเจดีย์ของเมืองไพศาลีหรือไวสาลีในปัจจุบัน หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงทำโอภาสนิมิตแก่พระอานนท์ถึงสามครั้งว่า "อานนท์ ถ้าบุคคลใดเจริญอิทธิบาท 4 ประการ ปรารถนาจะดำรงอยู่ประมาณกัปหนึ่ง หรือมากกว่านั้นก็สามารถจะอยู่ได้" โอภาสนิมิตนี้ หมายถึงบอกใบ้ว่าพระองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน หากพระอานนท์กราบทูลขอให้อยู่ต่อ และทรงรับก็สามารถดำรงพระชนม์ชีพอยู่ต่อไปได้  แต่พระอานนท์ไม่รู้เท่าทันจึงไม่ได้กราบทูลขอไว้ 
ปาวาลเจดีย์ เมืองไวสาลี รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ทรงปลงพระชนมายุสังขารแล้วก็ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ พระอานนท์จึงได้ทราบว่าพระพุทธองค์ทรงปลงอายุสังขารแล้ว จึงได้รีบทูลอ้อนวอนขอให้พระองค์ดำรงพระชนม์ชีพอยู่ต่อไปอีก แต่พระพุทธองค์ทรงห้ามไว้เพราะล่วงเลยกาลเสียแล้ว

ปาวาลเจดีย์ สถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงปลงพระชนมายุสังขาร กำหนดวันปรินิพพาน
ในวันนั้น ณ ที่แห่งนี้คือปาวาลเจดีย์ เมืองไวสาลี คณะของเราแม้จะอยู่ในสถานที่ที่ตกแต่งเป็นสวนหย่อมอย่างร่มรื่นสวยงาม แต่คณะเราทั้ง 10 คน รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก ประหนึ่งพึ่งได้รับรู้ถึงการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ควรบูชาอย่างยิ่ง  แม้นศาสดาของเราไม่เคยสอนให้ยึดมั่นในตัวตนของพระองค์ ทรงสอนให้ใช้ปัญญาและประพฤติตามธรรมคำสั่งสอนเป็นสรณะ และแม้นว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านมาแล้วยาวนานถึง 2,564 ปี แต่เมื่อเราย่างเท้าเข้ามาในปาวาลเจดีย์แห่งนี้เราก็ยังรู้สึกเสียใจถึงการจากไปของพระองค์ จึงได้แต่ทำจิตนิ่งสงบและเดินสวดมนต์ระลึกถึงพระพุทธคุณของพระองค์ที่มีความเมตตาอย่างยิ่งใหญ่ให้แก่ทุกคนทุกชนชั้นเสมอกัน  และธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ก็ยังเป็นจริงให้ผลจริงแก่ผู้ประพฤติธรรมพิสูจน์ได้ตลอดเหนือกาลเวลา

ดร.นพดล นำชมปาวาลเจดีย์และเล่าถึงความสำคัญของสถานที่แห่งนี้
เมื่อได้เวลาอันสมควรคณะของเราก็ได้ลาปาวาลเจดีย์ เพื่อเดินทางไปป่ามหาวัน สถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนักกับปาวาลเจดีย์ ส่วนจะสำคัญอย่างไร มีอะไรให้ได้เรียนรู้และชมบ้าง คอยติดตามอ่านในบทความหน้านะครับ

ติดตามอ่านบทความทั้งหมดใน ประสบการณ์เดินทางไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 8 วัน ในประเทศอินเดียและเนปาล ได้ที่ www.rkatour.com

สนใจเดินทางไปทัวร์แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระพุทธศาสนา สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน รวมถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งพุทธกาล  สอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่ โทร. 084-625-9929  

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ
www.rkatour.com 

ไม่มีความคิดเห็น: