มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า |
สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้า |
คณะที่ไปแสวงด้วยกันร่วมสวดมนต์ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า |
หลังจากพระพุทธเจ้าได้สวรรคตในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ที่ชาวพุทธกำหนดเป็นวันวิสาขบูชา ได้มีการไว้พระบรมศพอีก 7 วันในบริเวณที่สวรรคต จากนั้นก็ได้เคลื่อนย้ายพระพุทธสรีระมาทำการถวายพระเพลิง ณ ด้านตะวันออกของเมืองกุสินารา ซึ่งห่างจากจุดที่สวรรคตประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันตำแหน่งที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระคือตำบลกาเซีย รัฐอุตตรประเทศ ในวันถวายพระเพลิงจึงกำหนดเป็นอีก 1 วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า วันอัฏฐมีบูชา ตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 หรือเดือนวิสาขะ
มกุฏพันธนเจดีย์ |
พระอนุรุทธะซึ่งพระเถระผู้ใหญ่ในที่นั้นได้แจ้งว่า เพราะเทวดามีความประสงค์ให้รอพระมหากัสสปะที่กำลังเดินทางมาเพื่อถวายบังคมพระบาทเสียก่อน ไฟก็จะลุกไหม้ เมื่อพระมหากัสสปะมาถึงและได้ทำการอัญชลีและประทักษิณรอบเชิงตะกอน 3 รอบ พระมหากัสสปะเปิดผ้าทางพระบาทแล้วถวายบังคมพระบาททั้งสองด้วยเศียรเกล้า โดยท่านกำหนดว่าตรงนี้เป็นพระบาทแล้ว เข้าจตุตถฌาน อันเป็นบาทแห่งอภิญญา ออกจากฌานแล้วอธิษฐานว่า "ขอพระยุคลบาท ของพระองค์ที่มีลักษณะเป็นจักรอันประกอบด้วยซี่พันซี่ ขอจงชำแรกคู่ผ้า 500 คู่ พร้อมทั้งสำลี ไม้จันทน์ ออกเป็นช่อง ประดิษฐานเหนือเศียรเกล้าของข้าพระองค์ด้วยเถิด" เมื่ออธิษฐานเสร็จ พระยุคลบาทก็แหวกคู่ผ้าทั้ง 500 คู่ออกมา พระเถระจับยุคลบาทไว้มั่น และน้อมนมัสการเหนือเศียรเกล้าของตน มหาชนต่างเห็นความอัศจรรย์นั้น ก็ส่งเสียงแสดงความอัศจรรย์ใจ เมื่อพระเถระและภิกษุ 500รูปที่มาพร้อมพระมหากัสสปะได้ถวายบังคมแล้ว ฝ่าพระยุคลบาทก็เข้าประดิษฐานในที่เดิมแล้วเปลวเพลิงก็ลุกโพลงท่วมพระสรีระของพระศาสดา
อาจารย์ด็อกเตอร์นพดล ไกด์ผู้ให้ความรู้ในการไปแสวงบุญในประเทศอินเดีย |
เมื่อข่าวการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า และการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ พระสรีระได้กลายเป็นพระบรมสารีริกธาตุ ได้ล่วงรู้ไปถึงเหล่ากษัตริย์ในแว่นแคว้นต่างๆ ก็ต่างปรารถนาจะได้พระบรมธาตุไปบูชา จึงส่งฑูตมาขอจากเหล่ามัลลกษัตริย์ ครั้งแรกเหล่ามัลลกษัตริย์ไม่ยอมยกให้ กษัตริย์จากแว่นแคว้นต่างๆ จึงยกกองทัพมาเพื่อแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อกกองทัพของเมืองต่างๆ ยกมาถึงหน้าประตูเมืองกุสินารา กำลังจะเกิดศึกสงครามเพื่อแย่งชิงพระบรมธาตุก็ได้มีพราหมณ์ชื่อว่า โทณพราหมณ์ ซึ่งเกรงว่าจะเกิดสงครามใหญ่โตจึงได้ขึ้นไปยืนบนป้อมประตูเมืองประกาศว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าของเรา ทรงสรรเสริญขันติ สรรเสริญสามัคคีธรรม การที่เราจะมาประหัตประหารเพราะแย่งชิงพระบรมธาตุของพระองค์ผู้ประเสริฐย่อมไม่สมควร ดังนั้นขอให้ท่านทั้งหลายจงยินดีในการที่จะแบ่งกันไปเป็น 8 ส่วน และนำไปบูชายังบ้านเมืองของท่านทั้งหลายเถิด เพราะผู้ศรัทธาในพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นมีมาก
ในพระไตรปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร กล่าวไว้ว่าเจ้าผู้ครองแว่นแคว้นและเมืองต่างๆ เหล่านั้นได้ตกลงให้โทณพราหมณ์เป็นผู้แบ่งออกเป็น 8 ส่วนเท่าๆ กัน ซึ่งเหล่าเจ้าผู้ครองแคว้นและกษัตริย์ที่ได้รับแบ่งพระบรมสารีริกธาตุไปประกอบด้วย พระเจ้าอชาตศัตรูพระเจ้าแผ่นดินเมืองมคธ , พวกกษัตริย์ลิจฉวีเมืองเวสาลี , พวกกษัตริย์ศากยะเมืองกบิลพัสดุ์ , พวกกษัตริย์ถูลีเมืองอัลกัปปะ , พวกกษัตริย์โกลิยะเมืองรามคาม , พราหมณ์ผู้ครองเมืองเวฏฐทีปกะ , พวกเจ้ามัลละเมืองปาวา , พวกเจ้ามัลละ เมืองกุสินารา โดยพวกเจ้าโมริยะเมืองปิปผลิวันได้ส่วนแบ่งเป็นพระอังคาร ทุกแว่นแคว้นเมื่อได้พระบรมสารีริกธาตุไปก็นำไปเฉลิมฉลองและทำสถูปบูชา โทณพราหมณ์ก็ได้ตุมพะที่ใช้ตวงแบ่งพระบรมสารีริกธาตุไป จึงนับพระสถูปที่สร้างขึ้นรวมมีทั้งหมด 10 แห่งใน 9 เมือง รวมสถูปที่บรรจุพระสรีระ 8 แห่งพระสถูปบรรจุพระอังคาร 1 แห่ง และสถูปบรรจุตุมพะของโทณพราหมณ์อีก 1 แห่ง
คณะที่เดินทางไปแสวงบุญด้วยกันเดินสวดมนต์ระลึกถึงพระพุทธคุณ |
มกุฏพันธนเจดีย์ เดิมทีบริเวณมกุฏพันธนเจดีย์เป็นเชิงตะกอนไม้จันทน์หอมที่ใช้สำหรับถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ต่อมาพระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างพระสถูปครอบบริเวณนั้นลง แต่สมัยต่อมาพระสถูปองค์นี้ถูกทำลายลงเหลือเพียงแต่ซากปรักหักพังจากศัตรูผู้รุกราน ในปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้เห็นถึงความสำคัญของสถานที่นี้จึงได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมพระสถูปองค์นี้ไว้อย่างดี
ณ ที่มกุฏพันธนเจดีย์ แม้จะมีเหลือเพียงเจดีย์ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถาน แต่ ณ สถานที่แห่งนี้ก็มีเรื่องราวมากมาย เป็นสถานที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวพุทธ ได้เห็นได้รู้สัจธรรมความจริงของการเกิดแล้วต้องดับไป แม้นมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่มากด้วยบุญญาบารมีก็ไม่อาจเลี่ยงความจริงนี้ได้ ก็จะได้เตือนสติตนให้หมั่นสร้างสมปัญญาและบารมีเพื่อจะได้ก้าวพ้นจากวัฏสงสารตามแนวทางที่พระศาสดาได้ชี้ทางไว้ให้ แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้าเราจะพาเข้าไปในเมืองกุสินาราไปชมวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ แล้วเช็คอินเข้าพักที่ โรงแรม Bhadant Gyaneshwar Buddha-Vihar
ติดตามอ่านบทความทั้งหมดใน ประสบการณ์เดินทางไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 8 วัน ในประเทศอินเดียและเนปาล ได้ที่ www.rkatour.com
สนใจเดินทางไปทัวร์แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระพุทธศาสนา สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน รวมถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งพุทธกาล สอบถามรายละเอียดรายละเอียดได้ที่ โทร. 084-625-9929
เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น