วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2564

วัดไทยไวสาลี ประเทศอินเดีย

วัดไทยไวสาลี ประเทศอินเดีย
ท่านที่ติดตามโปรแกรมทัวร์แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถานตามรอยพระพุทธเจ้ามาตลอด ก็คงจะทราบแล้วว่าวันนี้คณะเราทั้ง 10 คนก็ยังอยู่ในช่วงเย็นของวันที่ 3 จากจำนวนโปรแกรมเที่ยวเส้นทางบุญที่ประเทศอินเดียและประเทศเนปาล ซึ่งวางแผนการเดินทางไว้ทั้งหมด 8 วัน ช่วงบ่ายหลังจากเราลงมาจากยอดเขาคิชฌกูฏเพื่อสักการะพระมูลคันธกุฎีที่ประทับของพระพุทธเจ้า และไปชมมหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยสงฆ์ที่เคยยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองที่สุดของโลก  สำหรับท่านที่จะติดตามตั้งแต่แรกการเดินทางจนจบทริป  
วัดไทยไวสาลี อินเดีย
หลังจากเราออกจากมหาวิทยาลัยนาลันทาซึ่งติดบ่ายมากแล้ว รถก็นำคณะของเราตรงดิ่งไปที่วัดไทยไวสาลี ระยะทางประมาณ 150 กิดลเมตรใช้เวลาเดินทางอยู่บนรถประมาณ 4 ชั่วโมง จึงไปถึงวัดไทยไวสาลีติดมืดเป็นเวลาทุ่มเศษ แต่น่ารักมากที่มีชาวบ้านชาวอินเดียหลายคนต่างกุลีกุจอมาช่วยยกกระเป๋าเดินทางจากรถนำส่งเข้าห้องพัก ช่วยลดแรงหนุ่มน้อยสาวน้อยได้ดีทีเดียวเพราะวันนี้เดินกันเยอะ นั่งรถกันนาน จึงเพลียไปตามๆ กัน แต่ก็สนุกและได้รับความรู้มากมาย จึงไม่รู้สึกเบื่อและเหนื่อยหน่ายเลยตลอดทริป เรามีอะไรที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจ ตลอดเส้นทางให้ได้ดูให้ได้ชม โดยเฉพาะสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาล
อาหารเช้าที่ วัดไทยไวสาลี
เมื่อรถพาคณะของเราถึงวัดไทยไวสาลี และนำสัมภาระเข้าห้องพักเรียบร้อย ซึ่งเป็นอาคารที่สร้างไว้สำหรับดูแลคณะผู้เดินทางมาแสวงบุญเพื่อใช้เป็นที่พักโดยเฉพาะ ห้องพักกว้างขวางสะดวกสบาย แน่นอนว่าวันนี้เลยเวลาอาหารเย็นมานานพอสมควร ต่างก็เริ่มหิวกันแล้ว ดีที่ได้เค้กบุญจากวัดไทยนาลันทาและเสบียงประเภทขนมกินเล่นต่างๆ รองท้องกันมาบ้างเลยไม่ค่อยเดือนร้อนนัก มื้อเย็นวันนี้ที่วัดไทยไวสาลีก็เป็นอาหารไทยเมนูง่ายๆ แต่อร่อย อาจจะเป็นด้วยเราขึ้นทางเหนือของอินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ อากาศเลยค่อนข้างเย็น นัดทุกคนไว้วันรุ่งขึ้นเราจะต้องตื่นกันเช้าหน่อยมารับอาหารเช้าก่อนแล้วจะได้เดินทางกันต่อ พรุ่งนี้สถานที่สำคัญที่เราจะเดินทางไปนมัสการคือ มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ของสังเวชนียสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา
ข้าวต้มเห็ดหอมร้อนๆ และอร่อยมาก ที่วัดไทยไวสาลี อินเดีย
เช้าของวันที่ 4 ทุกคนก็ตื่นเช้ามากินอาหารเช้าเป็นข้าวต้มเห็ดหอมร้อนๆ อากาศเย็นๆ กินอร่อยมาก เมื่อคืนมาถึงวัดไทยสาลีมืดเลยไปได้เดินชมบรรยากาศของวัด ทานมื้อเช้าเสร็จแล้วก็เลยถือโอกาสเดินสำรวจเสียหน่อย แม้นว่าจะเป็นช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่นี่อากาศก็ค่อนข้างเย็น คนที่กินข้าวต้มมื้อเช้าเสร็จแล้ว หลายท่านก็เลยถือโอกาสไปนั่งผิงไฟที่เขาก่อไว้และจิบกาแฟร้อนๆ เพิ่มความสดชื่นและกระปรี้กระเปล่า ใกล้สวนดอกไม้ที่ทางวัดปลูกไว้


ครั้นได้เวลาประมาณ 07.30 น. คณะก็เช็คของอำลาวัดไทยไวสาลี ก็ยังมีคนอินเดียหลายคนมาช่วยกันลากกระเป๋าตั้งแต่หน้าห้องพักมาส่งจนถึงขึ้นรถ ก็เลยให้ทิปน้ำใจกันคนละเล็กละน้อย แต่ก่อนจะเดินทางกัน เรามารู้จักกับวัดไทยไวสาลีกันซักหน่อย
ตื่นเช้าขึ้นมา ชาวอินเดียก็มารอช่วยยกกระเป๋าขึ้นรถ นั่งผิงไฟเพราะอากาศเย็น
ความเป็นมาของวัดไทยเวสาลี ตั้งอยู่ที่เมืองไวสาลี รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เป็นวัดที่สร้างและบริหารโดยคณะสงฆ์ไทย ที่วัดไทยไวสาลีได้จัดเตรียมห้องพักและมีอาหารไว้บริการให้ความสะดวกแก่นักเดินทางที่มาแสวงบุญที่เมืองไวสาลี ประเทศอินเดียโดยเฉพาะคณะสงฆ์และสาธุชนชาวไทย  จะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นในการเดินทาง 
มุมนั่งกินกาแฟในสวนดอกไม้ วัดไทยไวสาลี

ความสำคัญของเมืองเวสาลี หรือ ไวสาลี ในครั้งพุทธกาลไวสาลีเป็นเมืองหลวงของคณะเจ้าลิจฉวีที่ ปกครองด้วยระบอบคณาธิปไตยเป็นที่แรก ๆ ของโลก (บ้างก็เรียกว่าเป็นระบบประชาธิปไตย) เมืองนี้เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองที่เป็นมั่นสำคัญของพระพุทธศาสนาในสมัยนั้น โดยพระพุทธเจ้าเคยเสด็จเยือนไวสาลีแห่งนี้ในปีที่ 5 หลังการตรัสรู้ ตามการกราบบังคมทูลเชิญจากเจ้าผู้ครองแคว้น  

อาคารที่พักนักเดินทางของ วัดไทยไวสาลี ประเทศอินเดีย

ในช่วงหลังพุทธกาล เมืองไวสาลีได้ตกเป็นของแคว้นมคธโดยการนำของพระเจ้าอชาตศัตรูพระราชาแห่งเมืองราชคฤห์ และหลังการล่มสลายของราชวงศ์พระเจ้าพิมพิสารในเมืองราชคฤห์ เพราะประชาชนไม่อาจยอมรับพระราชาของตระกูลนี้เพราะเป็นราชวงศ์ที่ลูกมักจะฆ่าพ่อตนเองเพื่อแย่งราชบัลลังก์ พระราชาองค์ต่อมาของกรุงราชคฤห์ก็ได้ย้ายเมืองหลวงของแคว้นมคธจากกรุงราชคฤห์มายังเมืองเวสาลีเพื่อตั้งใจล้างคำสาปแช่ง ทำให้เมืองไวสาลีแห่งนี้เจริญถึงขีดสุด  เมืองไวสาลีหรือเวสาลีได้เป็นสถานที่ใช้ทำทุติยสังคายนาของพระพุทธศาสนา และต่อมาเมืองก็เริ่มเสื่อมความสำคัญและถูกทิ้งร้างแล้วได้มีการย้ายเมืองหลวงไปตั้งใหม่ที่เมืองปาฏลีบุตรหรือเมืองปัตนะอันเป็นเมืองหลวงของรัฐพิหารในปัจจุบัน

ติดตามอ่านบทความทั้งหมดใน ประสบการณ์เดินทางไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 8 วัน ในประเทศอินเดียและเนปาล ได้ที่  www.rkatour.com

สนใจเดินทางไปทัวร์แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระพุทธศาสนา สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน รวมถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งพุทธกาล  สอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่โทร. 084-625-9929  

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ
www.rkatour.com

ไม่มีความคิดเห็น: