|
หอยขาวหาดสำเร็จ ตัวโตเนื้อหวาน
อร่อยมากส์ๆๆ ขอบอก |
วันนี้เป็นวันที่น้ำทะเลตายซึ่งเป็นภาษาชาวเรือ ที่หมายถึงน้ำทะเลมีความแตกต่างระหว่างน้ำขึ้นสูงสุดกับน้ำลงต่ำสุดน้อยมาก หรือน้ำไม่ค่อยไหลนั้นเอง ถ้าเป็นคนชอบตกปลาก็จะเป็นนิมิตหมายให้รู้กันว่า วันนี้ไม่ต้องออกไปให้เสียเวลา ปลามันไม่กินเหยื่อหรอก เพราะว่าวันที่น้ำตายจะเป็นวันหยุดราชการของปลาทะเล ปลาส่วนใหญ่จะพักผ่อนนอนหลับอยู่ในบ้านไม่ค่อยออกมาหากิน ออกไปตกปลาก็เสียเวลาเปล่าๆ นอนกอด...(หมอนข้าง) อยู่ที่บ้านดีกว่า 555 วันนี้แดดก็ไม่ร้อนน้ำทะเลก็ไม่มาก มองเห็นสันดอนทรายในทะเลที่อยู่ห่างออกไปจากฝั่งร่วมๆ ร้อยเมตร เป็นสันดอนที่ทุกคนละแวกแถวนี้มั่นหมายว่าจะต้องไปให้ถึงให้ได้ก่อนคนอื่นๆ เพราะสันดอนที่ว่าชุกชมไปด้วยหอยขาวมากมาย ใครลงไปก่อนก็ได้เปรียบ ใครลงไปช้าเพื่อนก็เอาหอยไปซะเกือบหมดแล้ว และแหม ก็สันดอนที่ว่ามันอยู่หน้าบ้านผมเอง ปล่อยให้คนอื่นลงไปเปิดซิงซะก่อนก็ใช่เรื่อง ว่าแล้วก็ลากคราดเดินลงทะเลไปเลยดีกว่า แต่ต้องขออภัย ไม่อยากหิ้วกล้องไปถ่ายรูปกันกลางทะเล พลาดพลั้งมันได้ไม่คุ้มเสีย คราดเสร็จได้หอยแล้วเอามาถ่ายรูปทีหลังก็ได้ ไม่เห็นเป็นไร ก่อนอื่นก็แนะนำให้รู้จักกันก่อนว่า หอยขาวก็เป็นหอย2ฝา หน้าตาก็คล้ายๆ หอยเสียบที่ผมเขียนถึงเมื่อวาน คงเป็นญาติห่างๆกัน แต่เป็นญาติทางไหล ลำดับที่เท่าไรผมก็ไม่เคยสัมภาษณ์มันซักที แต่ตัวหอยขาวใหญ่กว่าหอยเสียบชนิดเทียบกันไม่ได้เลย นอกจากนั้นหอยขาวยังมีญาติใกล้ชิดกันอีกหนึ่งชนิดคือหอยไฟไหม้ ตัวและหน้าตาคล้ายกันเป๊ะ คนต่างถิ่นจะไม่รู้หรอกครับ แต่ในความคล้ายกันระหว่างหอยขาวและหอยไฟไหม้ก็ยังมีความแตกต่างให้เห็นกันชัดๆ ดังนี้
|
หอยขาวแช่น้ำทะเลให้คายทรายก่อนนำไปทำอาหาร |
หอยขาวมักจะชอบอาศัยและหากินตามแนวสันทรายที่น้ำท่วมถึงและแห้งเป็นบางเวลา เปลือกจะมีสีขาวล้วน หรือสีน้ำตาลปนอยู่บ้าง เนื้อจะหวานอร่อยและเวลาต้มสุกแล้วจะไม่มีเมือก ส่วน
หอยไฟไหม้หน้าตาก็เหมือนหอยขาวทุกอย่าง แต่มีสีเหมือนใครเอาเปลือกหอยขาวโยนใส่ไฟ คือมีสีเหลือบคล้ายสีน้ำตาลไหม้ (มีหอยไฟไหม้ซ่อนอยู่ 1 ตัว ในกะละมังด้านข้าง ใครตาดีหาเจอบ้างเอ่ย) หอยไฟไหม้ชอบอาศัยอยู่ในแนวสันทรายปนเลนที่น้ำท่วมถึงและแห้งเป็นบางเวลา เวลาต้มเนื้อจะหวานอร่อยคล้ายหอยขาว แต่คนที่ชำนาญการกิน จะแยกออกได้ทันทีว่าเนื้อของหอยไฟไหม้จะมีเมือกลื่นนิดๆ อยู่ด้วย แต่คนที่ลิ้นจระเข้แบบผมไม่ทันรับรู้เรื่องเมือกหรอกครับ กระเดือกลงคอไปหมดแล้ว เพราะยังไงเนื้อมันก็หวานอร่อย ครือๆ กัน ราคาจำหน่ายในตลาด หอยขาวจะแพงกว่าหอยไฟไหม้เกือบเท่าตัวทีเดียว คงเพราะเนื้อหอยขาวอร่อยแบบไม่ต้องสงสัยละมั้ง เมื่อรู้ว่าหอยขาวชอบอยู่ในทราย หอยไฟไหม้ชอบอยู่ในเลนปนทราย เราก็สามารถเลือกลงไปจับชนิดของหอยที่ต้องการได้ไม่ยาก แต่พอลงไปในทะเลจริงๆ ขอให้เจอหอยเถอะหอยอะไรก็เอาทั้งนั้นแหละ โธ่มันจับง่ายซะที่ไหน
สมัยที่ผมยังเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยก เดินลงไปในทะเล(ที่หาดแหลมโพธิ์ ต.พุมเรียง อ.ไชยา) ให้น้ำทะเลท่วมถึงประมาณหัวเข่า(เด็กตัวเล็กๆ) แล้วใช้มือคว้าๆ ในทรายรอบๆ ตัว แป๊บเดียวก็ได้หอยขาวหลายสิบตัวแล้ว แต่สมัยนี้หอยราคาแพง แค่ไปนั่งคว้าๆ ไม่ได้กินแน่นอน เพราะคนลงไปจับหอยขาวกันเยอะมาก แต่ก็น่าแปลกที่หอยขาวไม่ยักหมดซักที สงสัยมันคงแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วและเป็นจำนวนมากด้วย แต่ก็ไม่ถึงขนาดลงไปนั่งใช้มือคว้าหาหอยขาวได้อย่างสมัยก่อน สมัยนี้มันต้องใช้เครื่องทุ่นแรงครับ นั่นก็คือคราดที่ใช้สำหรับคราดหอย น่าตาก็เหมือนคราดทั่วๆ ไป เพียงแต่ไม่มีเหล็กแหลมๆ แต่เปลี่ยนเป็นแผ่นเหล็กแบนๆ แทน เวลาใช้งานเราก็เดินลงไปในทะเลบริเวณที่คิดว่ามีหอย แล้วก็ใช้คราดลากไปตามพื้นทราย ถ้าเจอหอยคราดก็จะสะดุดคล้ายสะดุดก้อนหิน ถ้าชำนาญก็อาจจะได้ยินเสียงคราดกระทบหอยดังแกร๊กเบาๆ ด้วย เท่านี้ก็ยิ้มได้เลย หอยขาวหรือหอยไฟไหม้ก็เสร็จเรา โทรสั่งคนที่บ้านต้มน้ำรอได้เลย แต่มันไม่ง่ายปานนั้น ต้องมาลองลากคราดหาหอยด้วยตัวเองดูครับ เดินลากคราดไปตามพื้นทรายมันเหนื่อยน่าดูเหมือนกัน ถ้าคราดในน้ำก็จะเบาแรงหน่อย แต่ถ้าคราดบนพื้นทรายล้วนๆ เพราะน้ำทะเลลดจนแห้ง อย่างนี้ละก็ลิ้นห้อยได้ง่ายๆ แต่คราดตอนน้ำแห้งก็ดีอย่าง เราจะเห็นได้ชัดเจนว่าพื้นทรายตรงไหนที่เราหรือคนอื่นคราดไปแล้ว จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาคราดตำแหน่งเดิม แต่ก็น่าแปลก อีกซัก 2-3 วันผ่านไป ไปคราดตำแหน่งเดิมเราก็ยังเจอหอยขาวตัวโตๆ ในที่เดิมๆ ได้อีก ก็แปลกดีเหมือนกัน แสดงว่าหอยมันไม่เข็ด หุหุหุ
|
หอยขาวต้ม |
เมื่อได้หอยมาแล้ว สิ่งหนึ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดคือตั้งหอยไว้บนพื้นทราย เพราะชั่วเผลอแป๊บเดียวหอยมันจะอันตรธานหายไปเหมือนผีหลอกเลย มันจะแทรกตัวหนีลงไปใต้พื้นทราย ต้องเอาหอยใส่ภาชนะส่วนใหญ่ก็จะเป็นถุงตาข่าย ผูกติดกับเอวไว้ สะดวกดี เวลาได้หอยมากๆ หรือใครโลภมาก ก็เอวเคล็ดได้เหมือนกันเพราะหนักหอย เวลาจะนำไปทำอาหารก็เหมือนหอยทั่วๆ ไป ที่เราต้องเอาไปแช่น้ำซักพักใหญ่ๆ หรือข้ามคืนซะเลย เพื่อให้หอยมันคายทรายออกมาให้หมด ถ้าจะให้หอยคายทรายเร็วๆ ก็แอบทุบพริกขี้หนูใส่ลงไปซักเม็ดสองเม็ด รับรองไม่นานหอยจะคายทรายออกมาเกลี้ยงเลย เท่านี้ก็เอาไปทำอาหารอร่อยๆ ได้แล้ว เนื้อหอยขาวสดๆ เนื้อหวานอร่อยมากๆ แถวบ้านผมเขานิยมเอามาทำหอยขาวหม้อไฟและหอยขาวผัดน้ำพริกเผา แต่ผมชอบต้มน้ำให้เดือดจัดๆ แล้วใส่ตะไคร้ลงไปนิดหน่อย จากนั้นใส่หอยขาวลงไปต้มพอสุก ใส่ใบโหระพานิดหน่อย เท่านี้ก็ได้กินหอยขาวที่อร่อยเหลือแหล่โดยที่ไม่จำเป็นต้องปรุงรสชาติเลย จะได้กินเนื้อหอยขาวรสหวานๆ มีเค็มแทรกอยู่เล็กน้อย อร่อยดีทีเดียว ส่วนใครจะจิ้มน้ำจิ้มหรือชอบกินหอยเปล่าๆ แบบผมก็ว่ากันไปได้เลย รับรองว่าหอยขาวยี่สิบสามสิบตัวไม่เหลือแน่นอนครับ และไม่ต้องกลัวอ้วนหรอกครับเพราะไปลากหอยมาหมดแรงลิ้นห้อยแล้ว
ถ้าชอบชีวิตลุ่นๆ เปลี่ยนบรรยากาศให้ชีวิตเจอความดิบๆ บ้าง มาเที่ยวที่หาดสำเร็จซิครับ ธรรมชาติบริสุทธิ์ ปราศจากการปรุงแต่ง กินอยู่แบบง่ายๆ ข้างหน้ามองลงไปในทะเล โอ อาหารทั้งนั้น มีอาหารดีๆ สดๆ รออยู่หน้าบ้าน อยากจะกินอะไรก็เดินไปเปิดตู้เย็น เอ้ยไม่ใช่ เดินลงทะเลไป มีประสบการณ์นิดๆ หน่อยๆ รับรองว่าต้องมีอะไรติดมือมาให้กินแน่นอน ผมถึงชอบทะเลที่นี่ จนต้องซื้อที่ดินติดทะเลมาเป็นสมบัติส่วนตัว กะว่าจะมาสร้างวิมานอยู่กันจนตายที่นี่ซะเลย แต่ก็แอบเผลอใจอยากไปมีบ้านที่นู่นที่นี่ ไว้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเป็นครั้งคราว นี่ก็แอบๆ ชอบที่ดินริมแม่น้ำโขงมองเห็นฝั่งลาว กะว่าไว้เปลี่ยนบรรยากาศไปนอนหนาวบ้าง พอหน้าร้อนก็กลับมานอนฟังเสียงคลื่นริมทะเล ถ้าทำได้ก็คงต้องขอบคุณ สวรรค์ พ่อ แม่ ตัวเอง และ ภรรยาที่น่ารัก ที่ชาตินี้เกิดมาได้ใช้ชีวิตจนคุ้มเกินคุ้มแล้วละครับ อิอิอิ
ปล. ไม่ต้องอิจฉาผมหรอกครับ ความสำเร็จมันก็เหมือนได้กินรสหวานของน้ำตาล ที่กว่าจะได้กินน้ำตาลหวานๆ มันต้อง ตัด บีบ คั้น และเคี่ยว สาหัสกันมาก่อน ทั้งนั้น ต้องเปลี่ยนจากอ้อยจนเป็นน้ำตาล คุณว่าง่ายไหมละ ความสำเร็จก็เหมือนกัน มันลำบากตอนเริ่มต้น เรียกได้ว่าโคตรเหนื่อย แต่ถ้าเราทำได้สำเร็จ ก็บอกได้เลยว่า โคตรสบาย แล้วคุณละพร้อมที่จะเปลี่ยนความสุขเล็กๆน้อยๆ ชั่วประเดี๋ยวประด๋าวมาลำบากโคตรๆ เพื่อความสุขจนตายแบบผมไหมละ ถ้าพร้อมก็เริ่มกันได้เลย ผมเอาใจช่วยครับ
ข้อมูลโดย
ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น