วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

วันที่ 7 ในอินเดีย เดินทางกลับเมืองพาราณสี

ผ้าไหม เมืองพาราณสี
ตอนนี้ก็เล่ามาถึงวันที่ 7 ของการเดินทางไปแสวงบุญตามรอยเส้นทางของพระพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดียและเนปาล เรายังมีเวลาอยู่ในอินเดียอีกเพียง 2 วัน พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางกลับเมืองไทยแล้ว พวกเราทั้ง 10 คนในคณะที่มาด้วยกันรู้สึกคุ้มค่ามากที่ครั้งหนึ่งของชีวิตได้มาดูให้เห็นกับตากับความมีอยู่ของสถานที่ที่เราเรียนมาตั้งแต่เด็กเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ได้ไปดูสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า รวมทั้งสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกหลายแห่งที่มีความสำคัญกับพระพุทธประวัติ ซึ่งประเทศอินเดียได้ให้ความสำคัญและบูรณะไว้อย่างดีมาก 

แวะรับประทานอาหารกลงวันระหว่างเส้นทาง
มื้อเช้าหลังจากรับประทานอาหารเช้าในวัดไทยสาวัตถีพุทธวิปัสสนาเรียบร้อยแล้ว เราก็นั่งรถยาวๆ เดินทางจากรัฐอุตรประเทศสู่เมืองพาราณสี ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง เพราะระยะทางไกลมากพอสมควร โดยแวะรับประทานอาหารกลางวันในร้านอาหารระหว่างเส้นทาง  
วัดไทยพาราณสีพุทธวิปัสสนา

คณะของเราเดินทางมาถึงวัดไทยพาราณสีพุทธวิปัสนา ในเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งเป็นวัดเดียวกันที่เรามาพักในวันแรกเมื่อไปถึงอินเดีย มีเวลาเล็กน้อยก่อนอาหารเย็น เลยออกไปเดินช็อปปิ้งในตลาดไม่ไกลจากวัดไทยพาราณสีฯมากนัก สินค้าที่ระลึกที่น่าสนใจส่วนใหญ่จะเป็นพระพุทธรูปและเสาอโศกแกะสลักจากหิน ขันหินทิเบต ชุดสาหรี่ ของขบเคี้ยวทานเล่น ฯลฯ  โดยเฉพาะชุดสาหรี่และผ้าไหมของเมืองพาราณสีขึ้นชื่อเรื่องเป็นผ้าไหมที่มีคุณภาพดีที่สุดของอินเดียมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ปัจจุบันก็ยังสืบทอดวิธีทำอยู่ในกลุ่มคนตระกูลเดิมๆ  ถ้าใครชอบผ้าไหมมาช็อปเลือกซื้อผ้าไหมคุณภาพดีจากเมืองพาราณสีจะไม่ค่อยผิดหวัง

เดินซื้อของฝากกลับบ้าน
เมื่อได้เวลาสมควรเราก็กลับไปยังวัดไทยพาราณสีพุทธวิปัสสนา เพื่อทานอาหารเย็นแล้วเลยถือโอกาสคุยสนทนาธรรมกับหลวงพ่อด็อกเตอร์จรัญเจ้าอาวาสวัดที่นั่น พร้อมได้รับรู้ข่าวสายการบินไทยแอร์เอเซียยกเลิกไฟท์ในเที่ยวขากลับของวันพรุ่งนี้เสียแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้สนามบินพาราณสีเริ่มปิดหยุดให้บริการบางสายการบินตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

ข่าวการปิดสนามบิน แน่นอนย่อมสร้างความสับสนและวุ่นวายให้กับนักท่องเที่ยวทั่วๆ ไป ที่ไปเที่ยวกันเองในต่างประเทศแน่นอน เพราะการแก้ไขสถานการณ์ทำได้ยากมาก โชคดีที่เรามาเที่ยวโดยใช้บริการประสานงานของบริษัททัวร์ของร้อยเกาะแอดเวนเจอร์ซึ่งโคกับบริษัทนำเที่ยวในประเทศอินเดีย ดังนั้นทางบริษัททัวร์ในประเทศอินเดียจึงรีบดำเนินการแก้ไขสถาการณ์จนทำให้เราได้ตั๋วบินกลับเมืองไทยในวันรุ่งขึ้นเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนไปใช้บริการของสายการ INDIGO โดยต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินที่ โกกาตา  ( กัลกัตต้า ) แทนตารางบินเดิมที่สามารถบินจากสนามบินพาราณสีได้เลย โดยเครื่องจะออกช้ากว่ากำหนดการเดิม 5 ชั่วโมง ทำให้พรุ่งนี้เราต้องปรับแผนกันนิดหน่อย และได้ไปเที่ยวเพิ่มขึ้น  ก็ถือว่าเป็นความโชคดีนิดหน่อยในความโชคร้าย

ข้อพึงรู้และควรระวัง ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติหรือแม้แต่เหตุการณ์ปกติ หากสายการบินยกเลิกเที่ยวบิน เราจะไม่ได้ค่าตั๋วคืน แต่ได้คืนมาในรูปเครดิตค่าโดยสารไว้ใช้บริการในวันหน้า ดังนั้นจึงอาจจะเป็นความเดือดร้อนและยุ่งยากของผู้โดยสารที่ต้องจองตั๋วเพื่อบินไฟลท์ใหม่ในสายการบินอื่น โชคดีที่เรามากันในรูปแบบบริษัททัวร์นำเที่ยว ทางบริษัททัวร์เลยสำรองจ่ายค่าตั๋วใหม่ให้ ไม่มีใครต้องเดือดร้อนและตกค้างในอินเดีย ดังนั้นการเลือกใช้บริการสายการบินระหว่างประเทศ อาจต้องพิจารณาให้รอบคอบซักนิดจะไม่ลำบากใจทีหลังหากมีสถานการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้น

ส่วนพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันกลับ จะไปเที่ยวที่ไหน และกลับกันอย่างไร ติดตามกันในตอนหน้านะครับ

ติดตามอ่านบทความทั้งหมดใน ประสบการณ์เดินทางไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน 8 วัน ในประเทศอินเดียและเนปาล ได้ที่  www.rkatour.com

สนใจเดินทางไปทัวร์แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระพุทธศาสนา สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน รวมถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งพุทธกาล  สอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่ โทร. 084-625-9929  

สามารถสมัครเป็นเพื่อนทางไลน์ หรือช่องทาง  https://lin.ee/dcUb0ed จะได้ไม่พลาดข่าวสารใหม่ๆและโปรโมชั่นทัวร์โดนๆ ที่อัพเดททุกวัน

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ

ไม่มีความคิดเห็น: