วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แคมป์ปิ้งริมทะเล นั่งตกปลา นอนดูดาว

ตกปลา ทะเลท่าชนะ
 ต่อจากเมื่อคืนก่อนหน้านี้ ที่ไปนั่งตกปลาริมทะเล ได้ปลาดุกทะเลมา 1 ตัว และปลาอื่นๆ อีก รวม 6 ตัว ในเวลาไม่นาน เมื่อวานเลยนัดกับน้องบอยคนเก่าไปตกปลากันอีก ณ ที่ชายทะเลแห่งเดิม แต่ว่าวันนี้เตรียมจะตกปลากลางคืนกัน ก็เลยไม่ได้รีบร้อน กว่าจะยุรยาตรไปถึงที่หมายได้ก็ปาเข้าไปจะหกโมงเย็นแล้ว ไปถึงก็รีบเหวี่ยงเบ็ดกันหน่อย เผื่อฟลุคได้ปลาเห็ดโคนแต่แถวบ้านผมเรียกว่าปลาทราย  ปกติมักจะตกได้ปลาทรายในเวลากลางวัน แต่มีบ่อยเหมือนกันที่จะตกได้ช่วงโพล้เพล้และหัวค่ำ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ  ปลาทรายทยอยกินเบ็ดขึ้นมาเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่ถึงกับถี่ยิบ แต่ได้มาเรื่อยๆ วันนี้เตรียมพร้อมเรื่องตกปลากลางคืนจึงเอาไฟโซล่าเซลมาด้วย ก็ได้รับความสะดวกเกี่ยวกับแสงสว่างมากพอสมควร เพราะไม่ต้องตกปลาท่ามกลางความมืด



ปลาทราย/ปลาเห็ดโคน
ปกติเวลาไปตกปลา ผมไม่ชอบเอากล้องถ่ายรูปไปด้วย เพราะนอกจากโดนไอเค็มของทะเลแล้ว มือผมยังสกปรกและคาวด้วย ขี้เกียจทำความสะอาด ชอบใช้โทรศัพท์เครื่องเก่งที่ลุยไหนลุยนั่น ทนได้ทุกสภาพอากาศ ลุยได้แบบไม่เสียดายโทรศัพท์ เพราะเป็นเครื่องราคาไม่กี่บาท เสียก็ขว้างทิ้ง แต่ใช้มานานแล้วมันไม่ยอมเสียซักที ส่วนโทรศัพท์เกรดคุณหนูแพงๆ ไม่ค่อยเหมาะกับผมหรอกครับ เพราะถึงจะแพงแต่ไม่สมบุกสมบัน การเที่ยวแบบผม ทั้งบุกน้ำ ลุยโคลน และลงไปในทะเล (จริงๆ นะครับ แถมบ่อยด้วย ลุยโคลนนี่หมายถึงลงไปลุยในเลนริมหาดเพื่อหาหอยมาต้มกิน ซึ่งหน้าที่ดินของผมที่ซื้อไว้มันมีหอยเยอะซะด้วย เคยทำโทรศัพท์หล่นลงไปในเลน เอาเช็ดๆ กับเสื้อ มันก็ยังโทรได้ ทนและอึดจริงๆ  กับเจ้าโทรศัพท์เครื่องละไม่กี่บาทนี่แหละครับ) หากใช้โทรศัพท์คุณหนูไม่เดี้ยงก็ให้รู้ไป หุหุหุ เมื่อโทรศัพท์ราคาถูก คุณภาพของกล้องก็เลยพิลึกพิลั่นเต็มที ยิ่งเป็นถ่ายช่วงแสงสลัวหรือมืดแล้วละก็พึ่งไม่ได้เลย แต่ผมก็ยังไม่คิดเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นโทรศัพท์รุ่นคุณหนูอยู่ดี และก็ยังไม่คิดแบกกล้องมาถ่ายรูปตอนตกปลาด้วยเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเรื่องตกปลาเลยอัตคัตเรื่องภาพซักหน่อย ก็อ่านที่ผมโม้ไปละกัน

ก่อไฟทางมะพร้าวไล่ยุง
วันนี้ลมสงบมาก ท้องฟ้าแจ่มใส ทะเลไม่มีริ้วคลื่น  เหมือนน้ำขังอยู่ในกะละมังใบใหญ่ๆ ท้องฟ้าก็ไม่มีเมฆ เห็นดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าเลย เพราะเป็นคืนข้างแรม พระจันทร์ยังไม่ขึ้น ในทะเลมีเรือไดหมึกส่องแสงแข่งกับดาวนับได้น่าจะเฉียดๆ ร้อยลำ สงสัยปลาหมึกจะเข้า เฮ้อ อยากออกเรือไปตกหมึกขึ้นมาตะหงิดๆ อีกแล้ว ปลาก็ยังตกขึ้นมาได้เรื่อยๆ น้ำทะเลก็เริ่มไหลลง แรงขึ้นและแรงขึ้น ด้วยความที่ไม่มีลมเลยเริ่มมียุงเข้ามารบกวน ก็อาศัยเก็บทางมะพร้าวมาก่อไฟไล่ยุง ได้ผลดีเหมือนกัน เสียแต่ทางมะพร้าวติดไฟเร็วไปหน่อยต้องเก็บมาเติมบ่อยๆ วันนี้เรื่องตกปลาไม่เท่าไร แต่น้ำทะเลความที่ไม่มีคลื่นและลมเลย น้ำเลยใสมากๆ เอาไฟฉายส่องลงไปในน้ำ และก็เหมือนที่คิดไว้เลยครับ เห็นตาของกุ้งทะเลสะท้อนแสงไฟฉายเป็นสีทับทิมยุบยับไปหมด ก็เลยลงไปไล่ตะครุบกุ้งตัวใหญ่ๆในน้ำ แต่ส่วนใหญ่มันหนีไปได้ สักพักเห็นชาวบ้านหลายคนเดินส่องไฟฉายกันเป็นแถว ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่า เขาเดินส่องกุ้งกัน เขาจะใช้ฉมวกแทงกุ้งขึ้นมา  เดี๋ยวจึ๊กเดี๊ยวจึ๊ก เห็นแล้วอิจฉาน้ำลายสอเลยครับ น้องบอยชวนว่า  วันหลังต้องหาโอกาสมาแทงกุ้งกันให้ได้ ซึ่งผมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เฉพาะที่อยู่หน้าหาดบริเวณที่นั่งตกปลากัน เห็นกุ้งเป็นร้อยๆ ตัว ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ตัวใหญ่ๆ ขนาดนิ้วชี้ผมก็อยู่น้ำลึกหน่อย ตากุ้งส่องแสงสะท้อนไฟฉายยุบยับไปหมดแบบนี้ ไม่ค่อยมีอารมณ์อยากตกปลาซักเท่าไร  อยากจะจับกุ้งมากกว่า เพราะเห็นตัวจะจะ เต็มพรืดไปหมด (แต่ไม่มีปัญญา เพราะตะครุบไม่ทัน555) ก็ได้แต่ฝากไว้ก่อน เถอะ  แล้วมีภาค 3 เรื่องฉมวกล่ากุ้งต่อ แน่ๆ

วันนี้ไม่มีปลาดุกทะเลมาให้เห็น แต่ก็สอยปลากดทะเลมาได้หลายตัว ยิ่งดึกปลายิ่งตัวโต ยุงก็หายไป นี่แหละครับ ทะเลบ้านผม ธรรมชาติยังคงบริสุทธิ์ เพราะไม่มีโรงงาน ไม่มีชุมชนใหญ่ ที่จะปล่อยน้ำเสียลงทะเล ทรัพยากรธรรมชาติยังคงความอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าชาวบ้านจะไม่มีรายได้ประจำหรือร่ำรวยเงินทอง  แต่ก็พออยู่พอกิน และมั่งมีน้ำใจ (เสียแต่ว่าไอ้น้ำใจนี่ เบิกธนาคารมาซื้อของไม่ได้ เฮ้อ) กุ้งหอยปูปลาอุดมสมบูรณ์ ถ้าต้องแลกด้วยความเจริญที่จะเข้ามาทำลายความสุข สงบ และอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่ ผมคนหนึ่งละที่จะต่อต้านแน่ๆ แล้วที่ละแวกบ้านของคุณละครับ ยังมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ให้ได้สัมผัสกันอยู่บ้างไหม ถ้ายังคงมีอยู่ อย่ายอมให้ใครทำลายเชียวนะครับ ไม่งั้นตายไป รุ่นหลาน เหลน โหลน ภายหน้า อาจสาบและแช่งเอาก็ได้
ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม


ไม่มีความคิดเห็น: