วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

เรื่องการล่องแก่งที่น่ารู้ คู่กับการเที่ยวหน้าฝน

ล่องแก่งหน้าฝน
ฤดูฝนมาเยือนแล้ว แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างซบเซา ไม่ว่าจะเป็นป่า ทะเล บนเขาบนดอย หรือกิจกรรมลุยๆแนวแอดเวนเจอร์ต่างๆ ก็ค่อนข้างเงียบเหงาไปตามๆกัน แต่มีอย่างน้อย 2 กิจกรรม ที่กลับมาคึกคักสวนกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ นั่นคือการเที่ยวน้ำตก และการล่องแก่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเที่ยวป่าหน้าฝนก็เป็นสิ่งที่ควรระมัดระวังและควรเช็คสภาพอากาศล่วงหน้าดีที่สุด






กิจกรรมยอดฮิตอย่างการล่องแก่งนั้น ปัจจุบันมีแก่งต่างๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวไปล่องกันแทบทุกภาค ใกล้ๆ บ้านผมก็มีให้เลือกหลายแห่งเช่น  ล่องแก่งพะโต๊ะที่ชุมพร และการล่องแก่งน้องใหม่ ที่นครศรีธรรมราช (จำชื่อไม่ได้แล้ว ทั้งๆที่เขาเพิ่งซื้อเรือยางไปจากผมแท้ๆ ต้องขออภัยจริงๆ แบบช่วงนี้ชักขี้ลืมบ่อยๆ ซะแล้ว สงสัยความจำเหลือเท่าๆความหนุ่มที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ หุหุหุ)  ที่ผมเองเคยไปสัมผัสมาแล้วก็มีหลายที่ด้วยกัน เช่นที่ ภาคเหนือก็ล่องแก่งแม่น้ำปาย แม่ฮ่องสอน ล่องแก่งแม่น้ำแข็กที่พิษณุโลก ภาคกลางไปบ่อยจนหลับตาก็นึกภาพโค้งต่างๆได้แล้ว(คนอื่นพายตัวเองแอบกินแรง ด้วยทำเป็นตากล้องตลอดเวลา 555) ก็เช่นล่องแก่งแม่น้ำเพชรบุรี และมีแก่งหินเพิงที่ปราจีนบุรี ทางตะวันตกก็ล่องเรือยางไปชมความอลังการของน้ำตกทีลอซู ความสวยงามของน้ำตกทีลอเรและน้ำตกทีลอจ่อ หลายแม่น้ำก็สามารถล่องแก่งได้แบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ ไม่มีความน่ากลัวเลย เด็กๆ ก็สามารถลงไปได้อย่างไม่ต้องห่วงและกังวลเช่นแม่น้ำเพชรบุรี หรือจะเอาโหดๆ แบบมันสะใจก็ต้องล่องแก่งแม่น้ำแข็กและล่องแก่งหินเพิง



 ผมเองเคยผ่านมาแทบทุกแก่งของเมืองไทยก็ว่าได้ เว้นแก่งน้องใหม่ที่เพิ่งเกิดมาหลังๆ ก็อาจจะยังไม่ได้ไป ไม่อยากจะบอกเลยว่าผมเองว่ายน้ำไม่เป็นหรอก แต่ผมไม่เคยกลัวน้ำเลย ขนาดกลางทะเลคลื่น 2-3 เมตร ผมก็ยังทนไปนอนเมาคลื่นได้ตั้ง 3-4 วันเพื่อไปตกปลา ดังนั้นถึงแม้ว่าจะว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถลงไปล่องแก่งได้อย่างปลอดภัย ถ้าเราทำตามคำแนะนำของพี่เลี้ยง(ผู้ดูแล)อย่างเคร่งครัด  ไม่อวดรู้ ถือดี รับรองว่าได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยไม่ต้องห่อผ้าขาวกลับแน่ๆ  และผมเองยังไม่เคยได้ยินข่าวหรือรู้ว่ามีใครตายเพราะกิจกรรมล่องแก่งเลย จริงๆนะ อันนี้ยืนยันก็ได้นอนยันก็ได้


ทีนี้แก่งต่างๆ ทั่วเมืองไทย ที่มีให้เลือกไปใช้บริการมีมากมายหลากหลายแห่ง แต่ละแห่งก็มีความยากง่ายแตกต่างกัน ผมเองเคยได้ยินมาว่าเขาแบ่งระดับการล่องแก่งเป็น 6 ระดับด้วยกัน ส่วนใครจะเป็นคนจัดแบ่งอันนี้บอกตรงๆ ว่าไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าเขามีมาตรฐานที่เราเองน่าจะรู้ไว้ จะได้รู้ว่าแก่งไหนมีสภาพเป็นอย่างไร จะได้เตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อม พร้อมแล้วก็ลุยโลด หากหลวมตัวลงเรือ(ยาง)ออกจากฝั่งแล้วก็หมดสิทธิ์หนีขึ้นมาได้ ต้องลุยต่อจนจบเท่านั้นเอง มาดูกันครับผู้รู้เขาแบ่งระดับของการล่องแก่งไว้อย่างไรบ้าง

 1 ระดับง่ายมาก เป็นลักษณะของสายน้ำที่ไหลเรื่อยๆ อาจมีกระแสน้ำไหลเร็วหรือมีคลื่นบ้างก็ได้ แต่มีอุปสรรคในน้ำน้อยมาก สามารถหลบหลีกหรือเลี่ยงได้ง่ายๆ

 2 ระดับธรรมดา เป็นลักษณะของสายน้ำที่เป็นแก่งยาวไหลไปข้างหน้า  อาจมีกระแสน้ำไหลเร็วหรือมีคลื่นบ้างก็ได้แต่ก็ไม่ถึงขั้นแรงมาก อาจจะมีอุปสรรคในน้ำบ้าง แต่ก็มีช่องให้เรือยางผ่านเห็นได้ชัดเจนและสามารถพาเรือเลี่ยงอุปสรรคในน้ำได้ไม่ยากนัก

3 ระดับปานกลาง เป็นลักษณะของสายน้ำที่เริ่มมีแก่งและคลื่นขนาดกลาง เริ่มมีอุปสรรคในน้ำที่หลบหลีกยาก บางจังหวะอาจจะมีน้ำท่วมเข้าเรือได้ คนที่อยู่ในเรือต้องใช้ความคล่องแคล่วและว่องไวในการบังคับเรือมากเป็นพิเศษ

4 ระดับยาก เป็นลักษณะของสายน้ำที่มีเกลียวคลื่นที่ทรงพลัง แต่เราก็ยังพอจะคาดเดาลักษณะของกระแสน้ำข้างหน้าได้ เป็นระดับที่ควรมีการสำรวจความปลอดภัยก่อนการล่องแก่งก่อน (เชื่อในพี่เลี้ยงให้มากๆ) เพราะอาจจะเจอเกลียวคลื่นที่อันตรายและอาจจะทำให้บาดเจ็บได้

5 ระดับยากมาก เป็นลักษณะของสายน้ำที่มีแก่งหินที่เป็นทางยาว มีความรุนแรงของกระแสน้ำมาก บางขณะจะมีเกลียวคลื่นม้วนตัวขนาดใหญ่โจมตีเรือโดยไม่สามารถหลีกหลบได้เลย จำเป็นต้องมีทีมงานที่เป็นมืออาชีพเป็นพี่เลี้ยงร่วมเดินทางด้วย

6 ระดับอันตราย เป็นลักษณะของสายน้ำที่มีความยากในการลงไปล่องเรือยางมาก ความรุนแรงอาจจะทำให้บาดเจ็บและถึงขั้นชีวิตได้เลย ดังนั้นในระดับนี้ไม่แนะนำให้ลงไปล่องแก่งเล่นแล้วนะครับ ยกเว้นคุณเป็นมืออาชีพต้องการทดสอบพลังของตนก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีก็แล้วกัน

รู้ระดับของการล่องแก่งแล้ว ก่อนที่จะก้าวลงสู่เรือยาง ก็ควรสอบถามพี่เลี้ยงให้ดีเสียก่อน จะได้เตรียมตัวและเตรียมใจ เพราะลงเรือแล้วไม่มีสถานีจอดให้ขึ้นระหว่างทางแน่นอน ( ขู่ไปงั้นแหละครับ ไม่มีอันตรายหรอก เพราะถ้าอันตรายก็จะมีพี่เลี้ยงลงเรือไปด้วยและจะดูแลเราอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าเป็นแก่งง่ายๆ ส่วนใหญ่ก็แล้วแต่เราว่าจะให้พี่เลี้ยงไปด้วยหรือจะไปกันเอง บ่อยครั้งที่ผมลอยคอทั้งเกาะและนั่งในะล้อยางรถลอยไปเรื่อยๆ แต่ค่อนข้างบังคับทิศทางยากซักหน่อยถ้ามีโค้งมากๆ ก็ไม่ค่อยเหมาะนัก สู้ใส่เสื้อชูชีพแล้วลงไปลอยคอซะเลยยังจะง่ายกว่า แต่ไม่ว่าจะลงน้ำด้วยพาหนะใดไก็แล้วแต่ เสื้อชูชีพควรใส่ติดตัวให้เรียบร้อยไว้เสมอจะดีที่สุดครับ

ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ แล้วคุณจะพบกับความสนุกในอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าเรียนรู้ไว้ ก่อนที่ความหนุ่มสาวในตัวจะเหลือน้อย ไม่อย่างนั้นจะมาบ่นเสียดายทีหลังก็ไม่มีประโยชน์แล้วละครับ และถ้าสนใจล่องแก่งแบบโหดมันฮา ก็คลิ๊กไปดูได้ที่นี่เลยครับที่ เว็บล่องแก่งหินเพิง

ข้อมูลโดย
ก้าวหน้าดอทคอม

ไม่มีความคิดเห็น: