ทำคั่วกลิ้งกินเอง ยิ่งเผ็ดยิ่งอร่อย

หนาวปีที่แล้ว ไปสิงอยู่ที่ปาย เกือบสามเดือน ไปกินอาหารที่ครัวระเบียงปายทุกวัน ร้านนี้เจ้าของร้านเคยเป็นเชฟมือ1 ของโรงแรมระดับ 5 มาแล้ว ถนัดทั้งอาหารยุโรป จีน และไทย ต่อมาเกิดมาหลงเสน่ห์เมืองปาย จึงลาออกมาเปิดภัตตาคารของตัวเองที่ปาย ชื่อครัวระเบียงปาย ด้วยความที่ไปกินที่นั่นทุกวัน เป็นคนใต้เหมือนกัน พูดภาษาเดียวกันที่คนนั่งโต๊ะข้างๆ ฟังไม่ค่อยเข้าใจ  จนเชฟไม่ทำอาหารให้กิน บอกอยากกินอะไรก็ให้ไปทำกินเอาเอง
แถมไม่คิดตังค์อีกด้วย เรียกว่าอิ่มแบบอร่อยแถมไม่ต้องเสียสตางค์แถมยังคดห่อเป็นวิชากลับบ้านอีกด้วย) โดยเชฟสอนให้หน้ากะทะเลย  ดีที่เชฟเขาเกรงใจไม่เอาตะบวยเคาะกระโหลกเหมือนตอนที่เชฟยังเป็นนักเรียนฝึกหัดแล้วทำไม่ถูกใจอาจารย์ เลยได้วิชามาเล็กน้อย เลยเอามาเล่าให้ฟัง เผื่อถูกใจก็ลองนำไปทำทานดู รับรองว่าอร่อยถูกใจตัวคุณเองแน่ๆ ก็ทำเองนี่  ไปปาย อย่าลืมแวะไป ครัวระเบียงปาย อาหารอร่อย ราคาไม่แพง ดูรายละเอียดได้ที่เว็บ ครัวระเบียงปาย http://www.kruarabaengpai.9nha.com  เรามาเริ่มเมนูแรกเปิดตัวกันด้วย เมนูอาหารชาวใต้ก็แล้วกัน

อาหารใต้ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก นอกจากแกงไตปลา, แกงส้ม(ภาคอื่นเรียกแกงเหลือง ซึ่งถ้าไปเรียกแกงเหลืองที่ปักษ์ใต้ เจ้าของสูตรอาจจะงงว่ามันคืออะไรเพราะไม่รู้จัก), น้ำพริกกะปิ, ข้าวยำ เมนูยอดฮิตอีก 1 ชนิด ที่เป็นที่นิยมของคนชอบพ่นไฟออกจากปาก(เผ็ดมาก)คือ คั่วกลิ้ง ถ้าจะให้ครบเครื่องแบบดั้งเดิมของขาคอทองแดง  ถ้าเราๆที่ไม่คุ้นเคย คงต้องกินแบบ ข้าว 1 คำ ตามด้วยน้ำ 1 แก้ว แล้วก็ยกมือเช็ดเหงื่อและน้ำตาที่ไหลออกมา พร้อมกับทำปากพะงาบๆ ไล่งับอากาศไล่ความเผ็ด แต่ไม่รู้เป็นงัยกลับตักกินได้เรื่อยๆ ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะหมด หรือกลืนไม่ลง เรียกว่ายิ่งเผ็ดยิ่งอร่อย แต่ถ้าทานบ่อยๆ กระเพาะอาหารคงต้องซ่อม แถมเวลาเข้าห้องน้ำตอนเช้ายังมีความเผ็ดตามมาหลอกหลอนให้ซี๊ดซ๊าดกันอีกรอบ

คั่วกลิ้ง เป็นอาหารที่ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ส่วนผสมหลักก็ใส่ตามศรัทธา แต่ถ้าจะให้สะดวกจะใช้เครื่องแกงคั่วกลิ้งในตลาดก็ได้แล้วมาปรับรสตามใจชอบ โดยมีส่วนผสมหลักดังนี้
1. หมูสับจะหยาบหรือละเอียดตามชอบ
2. พริกแกงคั่วกลิ้ง  
3. กะปิ   
4. ใบมะกรูด หรือ ใบยี่หร่า(จะหอมแต่จะรู้สึกเผ็ดมากยิ่งขึ้น)
5. น้ำตาลทราย 
6. น้ำปลา

แต่ตัวผมเองชอบทำอาหารประเภท ไม่เน้นหวานและไม่เอาเค็ม (ไม่ได้เป็นทั้งเบาหวานและความดัน แต่ไม่ค่อยชอบ 2 รสนี้นัก จึงไม่ค่อยเน้น เรียกว่าถึงไม่ใส่ น้ำตาลและน้ำปลา ผมก็ยังไม่รู้สึกว่าไม่อร่อย) ด้วยวัยที่พ้น 18 มานานแล้ว จึงชอบที่จะใส่กระชายหั่นฝอยลงไปในส่วนผสมตอนผัดด้วย รู้สึกว่า คั่วกลิ้งจะหอมขึ้นแถมยังมีสรรพคุณดีเป็นพิเศษ ( ผมหมายถึง ช่วยขับลมในท้อง แค่นั้นนะครับ 555) 

วิธีทำคั่วกลิ้งให้อร่อยถูกปาก (ตัวเอง)
เมื่อเตรียมส่วนผสมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็เอาเครื่องแกงคั่วลงไปผัดกับน้ำมันพืชเล็กน้อย(อย่าใส่น้ำมันพืชมากเดี๋ยวจะกลายเป็นผัดเผ็ดไปแทนที่จะเป็นคั่วกลิ้ง) จนเครื่องแกงหอมได้ที่ก็ใส่หมูบดหรือหมูสับลงไป   ใช้ไฟปานกลาง หรือจะผัดเครื่องแกงโดยไม่ใส่น้ำมันพืชก็ได้ แต่ผมนิยมใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อยเพราะจะรู้สึกว่าเวลาทานเนื่อคั่วกลิ้งจะมีรสชาตินุ่มนวลกว่า เมื่อเนื้อหมูสุกได้ที่ก็เติมรสชาติตามชอบใจ ถ้าต้องการบำรุงกำลังโดยใส่กระชาย ก็ใส่ลงไปได้เลยขณะที่เนื้อหมูเริ่มสุก ใส่ใบมะกรูดหรือใบยี่หร่้าลงไป  คั่วซักพักก็ยกลงพร้อมเสริฟ  คั่วกลิ้ง ยิ่งอุ่นหลายครั้งยิ่งทานอร่อย ชวนให้ไหลทั้งน้ำลายและน้ำตา(เพราะเผ็ด) ดังนั้นนี่เป็นคำเตือนสำหรับผู้บริโภค ไม่ควรทานบ่อยครั้ง มิฉนั้นจะเป็นอันตรายต่อ กระเพาะ ลำไส้ และจุดสิ้นสุดทางเดินของอาหาร

เชฟสุรินทร์ อาจารย์ผม ทำอาหารทีเดียว 3-5 กะทะเลย สุดยอดมาก

ปล. เชฟสุรินทร์ (เจ้าของครัวระเบียงปาย) บอกเคล็ดลับว่า การทำอาหารให้อร่อย ไม่ต้องไปคำนึงว่าต้องใส่ไอ้นั่นเท่าไร ใส่ไอ้นี้เท่าไร แต่ให้คำนึงว่า ปรุงไปชิมไป ถูกใจก็ OK  แต่เมื่อประสบการณ์แก่กล้า ก็จะรู้เองโดยไม่จำเป็นต้องชิม แค่ได้กลิ่นก็รู้ว่าอะไรขาดหรือเกิน 


ดูข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่พักราคาประหยัด ร้านอาหารอร่อยราคาไม่แพง และอีกมากมายได้ที่ www.9nha.com ก้าวหน้าดอทคอม แค่คลิ๊กก็พบสิ่งที่ต้องการ